สวนดุสิตโพลมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง 1,157 คน เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไร? กับ ข่าวการทุจริต ณ วันนี้สรุปผลได้ ดังนี้
ประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร? กับ ข่าวทุจริตในระบบราชการ ณ วันนี้
อันดับ 1 ร้อยละ 44.22 ระบุว่า เป็นปัญหาใหญ่ มีมานานทุกยุคทุกสมัย สร้างความเสียหายต่อประเทศ
อันดับ 2 ร้อยละ 28.67 อยากให้แก้ปัญหาอย่างจริงจัง มีการตรวจสอบ รื้อระบบภาครัฐครั้งใหญ่
อันดับ 3 ร้อยละ 19.00เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี กระทบต่อภาพลักษณ์ ชื่อเสียงของรัฐบาล
อันดับ 4 ร้อยละ 12.67 กฎหมายอ่อนแอ มีช่องโหว่ ทำให้เกิดการทุจริต
อันดับ 5 ร้อยละ 8.00 สื่อมวลชนควรนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง ตรงไปตรงมา
ประชาชนคิดว่า “การทุจริต” มีสาเหตุจากอะไร?
อันดับ 1 ร้อยละ 68.57 ความโลภ ละโมบ เห็นแก่ตัว ขาดจิตสำนึก
อันดับ 2 ร้อยละ 26.72 การใช้อำนาจหน้าที่เอารัดเอาเปรียบ
อันดับ 3 ร้อยละ 19.29 ระบบการตรวจสอบ ติดตาม ไม่เข้มแข็ง
อันดับ 4 ร้อยละ 12.93 สภาพเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษาที่ตกต่ำ
อันดับ 5 ร้อยละ 5.17ถูกชักจูง โน้มน้าว ทำตามพวกพ้อง
ประชาชนคิดว่าควรมีแนวทางป้องกันปัญหาการทุจริตอย่างไรบ้าง?
อันดับ 1 ร้อยละ 35.81 ต้องปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์
อันดับ 2 ร้อยละ 35.42 มีระบบการตรวจสอบที่ละเอียด เข้มงวด รัดกุม
อันดับ 3 ร้อยละ 32.10 พัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี
อันดับ 4 ร้อยละ 22.38 เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ไม่สองมาตรฐาน
อันดับ 5 ร้อยละ 14.45 ประชาชนร่วมมือกัน ต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น
ข่าวการทุจริต ณ วันนี้ มีผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มากน้อยเพียงใด?
อันดับ 1 มีผลมากร้อยละ 40.97
เพราะ กระทบต่อภาพลักษณ์ ขาดความน่าเชื่อถือ ถูกมองว่าเป็นการปกป้องพวกพ้อง รู้สึกผิดหวัง เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ฯลฯ
อันดับ 2 ค่อนข้างมีผลร้อยละ 22.13
เพราะ แสดงให้เห็นถึงการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ยังมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ค่อยมีผลร้อยละ 21.26
เพราะ การทุจริตเป็นปัญหาที่ฝังรากลึก มีมานาน ทุกรัฐบาลประสบปัญหา ไม่คาดหวังกับการแก้ปัญหาการทุจริตอยู่แล้ว ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่มีผลร้อยละ 15.64
เพราะ เชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาล นายกฯ มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ เชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้ ฯลฯ
ประชาชนคิดว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะแก้ปัญหาการทุจริตได้หรือไม่?
อันดับ 1 ร้อยละ 56.61 แก้ไขไม่ได้
เพราะ ที่ผ่านมามีหลายคดีที่เงียบหายไป ไม่สามารถเอาผิดได้ เกี่ยวข้องกับเรื่องผลประโยชน์ พวกพ้อง และผู้มีอิทธิพล แก้ไขได้ยาก เป็นปัญหาเรื้อรัง ฯลฯ
อันดับ 2 ร้อยละ 23.42 ไม่แน่ใจ
เพราะ ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ยังไม่รู้ข้อมูลข้อเท็จจริง ต้องติดตามต่อไป ฯลฯ
อันดับ 3 ร้อยละ 19.97 แก้ไขได้
เพราะ รัฐบาล คสช. มีอำนาจพิเศษ สามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว เป็นปัญหาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ฯลฯ
…