สภาประชาชนแห่งชาติจีน ลงมติแต่งตั้งประธานาธิบดีสี ดำรงตำแหน่งผู้นำสมัย 2

สภาประชาชนแห่งจีน ลงมติเป็นเอกฉันท์แต่งตั้งประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ดำรงตำแหน่งผู้นำสมัยที่ 2 วาระ 5 ปี และแต่งตั้งนายหวังฉีซาน มือขวาคนสนิท ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าใหญ่ดูแลงานปราบปรามการคอร์รัปชัน ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี โดยประธานาธิบดีสี ได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาทั้งหมด 2,970 เสียง ขณะที่นายหวัง ได้รับ 2,969 เสียง คัดค้าน 1 เสียง ซึ่งภายหลังสภาประชาชนแห่งชาติจีนลงมติ ทั้งประธานาธิบดีสี และนายหวัง ได้จับมือกันท่ามกลางความยินดีและเสียงปรบมือจากสมาชิกสภา ทั้งนี้ สภาประชาชนแห่งจีน ได้ขยายอำนาจให้แก่ประธานาธิบดีสี ในระหว่างการประชุมสภาประจำปีจากเดิมซึ่งมีอำนาจมากอยู่แล้ว แต่ยังเพิ่มชื่อของประธานาธิบดีสี ไว้ในรัฐธรรมนูญและยกเลิกข้อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีแค่ 2 สมัยๆ ละ 5 ปี นอกจากนี้ การดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในครั้งนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีสี และนายหวัง จะต้องกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณต่อรัฐธรรมนูญ โดยประธานาธิบดีสี ได้วางมือซ้ายบนหนังสือปกแดงบรรจุรัฐธรรมนูญ และยกกำปั้นมือขวา เพื่อกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ

สำหรับนายหวัง รองประธานาธิบดีจีนคนใหม่วัย 69 ปี จัดเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่น่าเกรงขาม เพราะแม้จะเกษียณอายุก้าวลงจากตำแหน่งในพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อเดือนตุลาคม แต่ยังคงเป็นผู้มีบทบาทโดดเด่นและทรงอิทธิพลทางการเมืองมาก โดยได้นั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกับคณะกรรมการโปลิตบุโรในสมัยการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน

สำหรับการแต่งตั้งนายหวัง ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจีน นักวิเคราะห์มองว่า สะท้อนให้เห็นว่า นายหวังเป็นนักการเมืองมากความสามารถพิเศษ และเป็นที่ปรึกษาการเมืองที่สำคัญจริง คาดว่า การเลือกนายหวัง ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ซึ่งแม้จะเป็นตำแหน่งพิธีการ แต่นายหวัง น่าจะช่วยเสริมสร้างอำนาจให้แก่ประธานาธิบดีสี ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังตั้งข้อสังเกตว่า การเมืองจีนในยุคปัจจุบันไม่เป็นไปตามธรรมเนียมนิยม

สำหรับประวัติของนายหวัง เป็นที่หวั่นเกรงภายในหมู่นักการเมือง ด้วยฉายานักล่าเสือ โค่นล้มอำนาจของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับบนมาแล้ว 1 ล้าน 5 แสนคนในช่วง 5 ปี และเป็นที่รู้จักในเวทีระหว่างประเทศในฐานะผู้แทนเจรจาการค้าของจีน โดยนายหวัง สามารถช่วยประธานาธิบดีสี จัดการความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับสหรัฐฯ ท่ามกลางความหวาดวิตกสงครามการค้าเป็นอย่างดี

ทีมต่างประเทศ

CR:AFP ,http://www.nationmultimedia.com