รมว.พม.สั่งเร่งสอบปลัด-รองปลัด โยงทุจริตเงินคนจน/สมชัย มองส่งร่างกม.ลูกตีความเลื่อนเลือกตั้ง 6 เดือน/นายชาญศิลป์ นั่งซีอีโอปตท.คนใหม่

+++ความคืบหน้าการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) นางไพรวรรณ พลวัน รักษาการปลัดกระทรวงพม.กล่าวว่า ขณะนี้มีการตรวจสอบศูนย์  56 แห่ง พบมีมูลการทุจริต  16 แห่ง และได้มีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ 22 คน เข้ามาปฎิบัติงานในส่วนกลางแล้ว ซึ่งดำเนินการสอบข้อเท็จจริงและสอบวินัย และรอข้อมูลจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)  เพิ่มเติม เพื่อใช้ในการพิจารณาร่วมด้วย นอกจากนี้ การสอบสวนปลัดและรองปลัดพม. ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต อยู่ในขั้นตอนสืบพยาน โดยพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. สั่งเร่งสอบสวนให้แล้วเสร็จสิ้นมี.ค.

+++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มองว่า การที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ยื่นกฎหมายลูกว่าด้วย ส.ว. ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความฉบับเดียว จะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปได้ถึง 6 เดือน นายสมชัย กล่าวว่า ในส่วนของการตีความกฎหมายลูกว่าด้วยที่มา ส.ว. หากศาลตีความว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ก็ตัดบทเฉพาะกาลไป ซึ่งไม่กระทบอะไรมาก ทั้งนี้หากจะยื่นประเด็นกฎหมายลูกว่าด้วย ส.ส.ให้ตีความนั้น  ส่วนตัวมองว่า เป็นประเด็นที่เล็กมาก คือ ประเด็นการใช้สิทธิของคนพิการ และ การตัดสิทธิผู้ไม่ใช้สิทธิเลือกตั้ง

+++ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงที่กลุ่มการเมืองจดจัดตั้งชื่อพรรคการเมือง นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มาถึงขั้นตอนที่กฎหมายเปิดโอกาสให้มีการขอจดจัดตั้งพรรคใหม่แล้ว การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องปกติและเมื่อมีการจดจัดตั้งพรรคแล้วจะเห็นความเคลื่อนไหวที่เพิ่มมากขึ้น แต่การเคลื่อนไหวต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย เพราะประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับฟังประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งในอนาคต ขณะเดียวกัน ฝ่ายความมั่นคงก็ได้ติดตามและดูแลอย่างเต็มที่หากมีบุคคลที่จะฉวยโอกาสใช้ช่องว่างเคลื่อนไหวทางการเมืองให้เกิดความวุ่นวาย

+++นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ปตท. มีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.เสนอชื่อนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. คนใหม่ ต่อจากนายเทวินทร์ ให้มีผลวันที่ 31 สิงหาคม 2561 และมีวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี 8 เดือน นับจากวันที่ได้รับการแต่งตั้ง เนื่องจากนายชาญศิลป์ จะมีอายุครบ 60 ปี บริบูรณ์ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2563

+++กลุ่มม็อบเทพา สนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน เคลื่อนกำลังผู้ชุมนุม จำนวนกว่า 160 คน ไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงคำตอบจากรัฐมนตรี หลังจากรอมาจนครบกำหนด 7 วัน โดยเริ่มออกเดินทางจากหน้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เวลา 9.00 น. ขึ้นรถโดยสารประจำทางสาย 110 ไปเทเวศน์ แล้วเดินเท้าต่อไปถึงหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) จากนั้น นายพณวรรธน์ พงศ์ประยูร เลขาฯ ประธานเครือข่ายคนเทพาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ประกาศว่า วันนี้ต้องการมาฟังคำตอบ ตามหนังสือข้อเรียกร้องของชุมชน ที่ต้องการให้ยกเลิก MOU ระหว่างรัฐมนตรีและกลุ่มเครือข่ายปกป้องสองฝั่ง ทะเลกระบี่ -เทพา ยุติการสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งมีความไม่ชอบธรรม และคนเทพา ต้องการให้เดินหน้าการทำการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ(EHIA)  ท่าเทียบเรือต่อไป หลังจากนั้น ชุมชนเทพา ได้มานั่งริมถนนหน้าสำนักงาน กพร. ก่อนนายพันศักดิ์ เจริญ ผู้อำนวยการส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน จะลงมาพูดคุยกับผู้ชุมนุม

+++หลังจากนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนพลไปที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (UN) เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องขอให้ UN คุ้มครองสิทธิในการแสดงความคิดเห็นตามหลักประชาธิปไตยของเครือข่ายคนเทพาฯ และเป็นคนกลางช่วยเหลือประสานงานกับรัฐบาลในการยกเลิก MOU และคำสั่งการจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA)  โดยยืนยันว่าจะเดินปักหลักอยู่หน้า UN ทุกวัน จนกว่าจะได้รับคำตอบ

+++บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ  0.25 จากร้อยละ  1.25-1.50  เป็นร้อยละ  1.50-1.75  ในการประชุมรอบ 2  ของปีนี้ ในวันที่ 20-21 มีนาคม ท่ามกลางปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะตลาดแรงงาน ที่อัตราว่างงานมีโอกาสลดลงทำสถิติต่ำที่สุดในรอบกว่า 5 ทศวรรษ คงเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวร้อนแรงเกินไป

+++สำหรับผลต่อประเทศไทย การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดครั้งนี้คงส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯและไทยกว้างขึ้น ทำให้มีเงินทุนบางส่วนไหลออก ส่วนอัตราดอกเบี้ยไทย ยังไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ คงจะขึ้นกับการส่งสัญญาณทางการเงินของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 

+++ขณะที่ผลกระทบต่อทิศทางของค่าเงินบาท แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีเงินทุนไหลออกบางส่วน แต่ยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ทิศทางค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่า เนื่องจาก ปัจจัยกดดันค่าเงินบาทระยะนี้ มาจากความเสี่ยงด้านการเมืองสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งท่าทีการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่แข็งกร้าวมากขึ้น ส่งผลให้มีแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ออกมาจากความกังวลต่อความเสี่ยงสงครามการค้า ประกอบกับการขาดดุลการคลังระดับสูง ซึ่งคงเป็นเหตุการณ์ที่อาจจะกดดันการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อีกระยะ

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดที่ 1,811.76 จุด ลดลง 4.32จุด มูลค่าการซื้อขาย76,035.35ล้านบาท

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดร่วงลง 127.44 จุด ที่ 21,676.51 จุด เนื่องจาก ความวิตกกังวลเกี่ยวกับคณะทำงานและนโยบายการค้าสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งผลให้เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก 

+++ดัชนีฮั่งเส่ง ฮ่องกง ปรับตัวลดลง เนื่องจาก นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในสหรัฐฯ ลดลง 39.13 จุด  ปิดที่ 31,501.97 จุด

แฟ้มภาพ