30 สนช. จำใจยื่นร่างพ.ร.ป.ส.ว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เกรงมีปัญหาภายหลัง

ข้อสรุปของการส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เปิดเผยว่า สนช.ชั่งน้ำหนักแล้วได้ข้อสรุปว่าจะไม่ส่งร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ให้ตีความ จะส่งเฉพาะร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ประเด็นที่จะส่งคือเรื่องบทเฉพาะกาลที่บัญญัติให้ชมรม สมาคมมีสิทธิเสนอชื่อบุคคลมาเป็นส.ว.ได้ รวมทั้งให้ที่มาส.ว.มาจาก 10 กลุ่มอาชีพ และเป็นการเลือกกันเองแทนการเลือกไขว้ ขณะนี้ได้คำร้องพร้อมรายชื่อสมาชิกสนช.ผู้ยื่นร่างจำนวน 30 คนแล้วนำโดยนายกิตติ วะสีนนท์ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการทางธุรการ คาดว่าจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญได้เย็นนี้หรือช้าสุดคือวันจันทร์ที่ 19 มีนาคม ส่วนตัวและสนช.ทุกคนมั่นใจว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญแน่ เเต่จำใจต้องยื่นเพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ เพราะขณะนี้สนช.ถูกกระแสสังคมกดดันให้ยื่นร่าง อีกทั้งมองว่าถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็จะกระทบต่อการได้มาซึ่งส.ว. ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่มีความเสี่ยงจะมีปัญหาในการเลือกตั้งได้ในอนาคต จึงยื่นไปเพื่อให้ได้ข้อยุติ และไม่ขอตอบว่าถ้าร่างดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญแล้วจะมีผลให้ร่างตกไปทั้งฉบับหรือไม่ เช่นเดียวกับการหาผู้ร่างใหม่ถ้าร่างถูกวินิจฉัยว่ามีปัญหา

ส่วนร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. นายพรเพชร ระบุว่า ถือเป็นบุญบารมีและความโชคดีของประเทศไทยที่ร่างถูกกำหนดไว้แต่แรกว่าให้มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 90 วัน ทำให้สนช.ตัดสินใจไม่ยื่นร่างตอนนี้ซึ่งจะส่งผลให้ต้องชะลอร่างจนกระทบกับโรดแม็ปอย่างน้อย 2-3 เดือน และถ้ามีผู้ใดติดใจว่าร่างดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็ให้ไปยื่นในช่วง 90 วันที่กฎหมายรอมีผลบังคับใช้ ซึ่งจะไม่กระทบโรดแม็ป เพราะเชื่อว่า 90 วัน จะมากพอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยได้ ร่างดังกล่าวตัวเองกับสนช.ทั้งหมดก็เห็นว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญเช่นกัน ส่วนที่มีผู้เห็นว่าเรื่องการตัดสิทธิผู้ไม่ไปเลือกตั้งและการช่วยผู้พิการลงคะแนนจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ แม้ถ้าขัดจริงก็จะไม่มีเหตุให้ร่างนี้ตกไปทั้งฉบับหรือต้องมาแก้กฎหมายกันใหม่ มั่นใจว่าอย่างมากแค่การตัดมาตราหรือถ้อยคำทิ้งเท่านั้น  ส่วนถ้ามีผู้หวังผลทางการเมืองไปยื่นหลัง 90 วันในช่วงกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว นายพรเพชร ระบุว่า เป็นการกระทำที่ไม่ควร เพราะ 90 วันก็มีเวลามากพอให้ยื่นแล้ว สำหรับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะส่งให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายในวันจันทร์ และไม่ขอออกความเห็นถ้านายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)จะเสนอให้นายกฯส่งร่างตีความ

นายพรเพชร ยืนยันว่า สนช.ทำหน้าที่เต็มที่และรอบคอบในการพิจารณาร่างกฎหมาย และขอให้สังคมเข้าใจว่ากระบวนการต่างๆที่ผ่านมาเป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายบัญญัติไว้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์อื่นหรือไม่เคยใช้อภินิหารอะไร สำหรับร่างทั้งสองในขณะนี้ผู้ที่จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้มีเพียงนายกฯและสนช. สำหรับบุคคลทั่วไปหรือองค์กรต่างๆจะยื่นได้เมื่อกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเท่านั้น

ส่วนกรณีพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลาออกจากสมาชิกสนช. ทราบว่าพล.ต.อ.สมยศ ให้เหตุผลว่ามีภารกิจหลายอย่างที่ต้องทำจึงขอลาออก เมื่อถามว่าไม่ได้เป็นการหนีการตรวจสอบความประพฤติ และจริยธรรมใช่หรือไม่ นายพรเพชร ปฏิเสธที่จะตอบและเดินหัวเราะออกไป

ผู้สื่อข่าว: ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร