กลุ่มผู้เห็นต่างหนุนงบประมาณป่วนชายแดนใต้/ฟ้องเจ้าของรถแจ้งความเท็จ กรณีป้าทุบรถ/ยังสอบคดีสลาก30ล้านบาท

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30  น.

+++สถานการณ์ชายแดนใต้ พล.อ.อักษรา เกิดผล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงการแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมากลุ่มผู้เห็นต่างได้ใช้ความรุนแรงมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเงื่อนไขใช้ต่อรองในการพูดคุยกับรัฐบาล โดยมีกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานที่แอบติดต่อผ่านตัวแทนแหล่งข่าว รวมทั้งแนวร่วมในพื้นที่ให้การสนับสนุน ช่วยกันสร้างความรุนแรงแบบป่วนเมือง ขยายความขัดแย้งไปทั่วจังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลยินดีคุยกับกลุ่มที่ไม่ใช้ความรุนแรง และขณะนี้สามารถดึงกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ เกือบร้อยละ 90 เข้ามาพูดคุยและร่วมกันสร้างสันติสุข ด้วยการสร้างเซฟตี้โซน(Safety Zone) ที่ทุกฝ่ายสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับพื้นที่สาธารณะปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็นสำหรับทุกคน

++++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุม ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อระดมความเห็น และหาแนวทางช่วยเหลือ ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่ร้องเรียนมา ก่อนหน้านี้  หลังใช้เวลาหารือประมาณ 2 ชั่วโมง นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยหลังประชุมว่า ในส่วนของทีวีดิจิทัล ทุกฝ่ายเห็นร่วมกันในมาตรการให้พัก ชำระหนี้ ภายในระยะเวลา  3 ปี  ซึ่ง ผู้ที่จะยื่นเรื่องพักชำระหนี้ต้องยื่นกับคณะกรรมการ กสทช. ภายใน 30 วัน โดยต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ขณะที่กสทช.จะสนับสนุนเรื่องโครงข่ายภาคพื้นดินไม่เกินร้อยละ 50 ภายในระยะเวลา 24 เดือน นับตั้งแต่ วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งตามมาตรา 44

ขณะที่มาตรการช่วยเหลือด้านโทรคมนาคมในส่วนคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่มีปัญหาการชำระเงินประมูลงวดที่ 4 ทั้งค่ายเอไอเอสและทรูมูฟ  ที่ประชุมมีมติให้แบ่งชำระเป็นงวด 5 ปี ปีละหมื่นกว่าล้าน  โดยจะต้องชำระอัตราดอกเบี้ยตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยเช่นเดียวกัน คาดว่า นายวิษณุ จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วันที่ 27 มีนาคม เพื่อพิจารณาออกคำสั่งมาตรา 44 คาดว่าจะสามารถประกาศได้ภายในเดือนนี้

+++ศาลจังหวัดขอนแก่นได้นัดพร้อมเพื่อฟังคำพิพากษาในคดีดังกล่าวในวันที่ 29 มิ.ย.2561 คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ระหว่างโจทก์ คือพนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น กับ จำเลย ประกอบด้วย น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว จำเลยที่ 1,น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิน จำเลยที่ 2 ,น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ หรือเบนท์ จำเลยที่ 3 ,นายวศิน นามพรม จำเลยที่ 4 และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ จำเลยที่ 5  หลังขั้นตอนของการไต่สวนในลำดับขั้นตอนของการพิจารณาเสร็จสิ้น นายอมรพงษ์ จันทร์กวี ทนายความของ น.ส.เปรี้ยว กล่าวว่า ผู้ต้องหาไม่ได้ไม่รับสารภาพทั้งหมด โดยเฉพาะ น.ส.เปรี้ยวนั้น ซึ่งรับว่าฆ่า น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม จริง แต่ไม่ได้กระทำการโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่กระทำไปโดยการพลั้งมือจนผู้ตายนั้นเสียชีวิต ส่วนการหั่นศพนั้นทุกคนได้ร่วมมือกัน

+++สรุปแล้ว จำเลยที่ 1 รับสารภาพว่าหั่นศพ ซ่อนเร้นและอำพรางศพ,ฆ่าคนตายโดยการพลั้งมือ, จำเลยที่ 2 รับสารภาพว่าร่วมกันหั่นศพ ซ่อนเร้นและอำพรางศพ,จำเลยที่ 3 รับสารภาพว่ารับของโจร,จำเลยที่ 4 รับสารภาพว่าหั่นศพ ซ่อนเร้น และอำรางศพ และจำเลยที่ 5 รับสารภาพว่าร่วมกันหั่นศพ ซ่อนเร้นและอำพรางศพ รวมทั้งข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีนด้วย ดังนั้นคดีนี้ทีมทนายความฝ่ายจำเลยนั้นทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่และสมบูรณ์แบบครบถ้วนที่สุด

+++หลังพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปป.) สอบปากคำนายปรีชา ใคร่ครวญ  นางรัตนาพร สุภาทิพย์  หรือ เจ๊บ้าบิ่น และ นางสาวพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช ในข้อหาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบในคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล30 ล้านบาท นานกว่า 5 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ทั้ง3คนกลับบ้านได้ เนื่องจากเป็นการเดินทางมารับทราบข้อกล่าวด้วยตัวเอง ซึ่งทั้ง3คนไม่ให้สัมภาษณ์ พลตำรวจตรีกมล เหรียญราชา ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบหรือ ปปป. เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนนำสำนวนของกองปราบปรามและ สำนวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ที่นายปรีชา นางรัตนาพรและนางสาวพัชริดาเคยให้การเดิมมาให้ดู ซึ่งทั้ง3คนยังคงยืนยันในคำให้การเดิม แต่ขอปฎิเสธข้อกล่าวหาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

+++โดยนายปรีชาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าจะนำรายละเอียด หลักฐาน ต่างๆมาให้ภายใน 30 วัน แต่เนื่องจาก ปปป.ต้องส่งสำนวนให้คณะกรรมป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)ก่อน จึงแจ้งให้นายปรีชา นำเอกสารที่จะมอบให้พนักงานสอบสวนมาภายในวันที่ 26 มีนาคม แต่หากไม่ทันในวันดังกล่าวนายปรีชาจะต้องไปยื่นเอกสารเพิ่มที่ ปปช.ด้วยตัวเอง

+++ส่วนการสอบปากคำนางรัตนาพรและนางสาวพัชริดานั้น ก็ได้แจ้งกับพนักงานสอบสวนเช่นกันว่าจะนำเอกสารหลักฐานมายื่นให้ภายหลัง และ ขอให้การในชั้นศาล นอกจากนี้นางรัตนาพรให้การกับพนักงานสอบสวน ปปป. ขอให้บันทึกคำให้การเพิ่มเติม เนื่องจากคำให้การเดิมนั้น นางรัตนาพรอ้างว่า มีความเข้าใจคาดเคลื่อนและสับสน

ด้านนายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความของนางรัตนาพรและนางสาวพัชริดา กล่าวว่า ขณะนี้ทั้ง3คนยังปฏิเสธข้อกล่าวหา และวันนี้มามอบตัวตามขั้นตอนของ ปปป. ที่มีหมายเรียก ทั้งนี้หากมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีก็จะทำเอกสารเป็นคำให้การมาชี้แจงเพิ่มเติม และไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเรื่องของการลงลายมือชื่อคำให้การ เพราะเป็นเรื่องในสำนวน หลังจากนี้จะต่อสู้ไปตามข้อเท็จจริง

+++ทนายอนันต์ชัย ไชยเดชแจ้งมา วันนี้ เวลา 10.00 น.จะพาป้ามณีรัตน์ และป้ารัตนฉัตร แสงหยกตระการ แจ้งความดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดทางอาญา ตาม ป.อาญา ม.172,173,174 กับนางสาวรชนิกร เลิศวาสนา เจ้าของรถ กับพวก ที่แจ้งความกล่าวหาว่า ป้าทั้ง 2 พกพาอาวุธฯและข่มขู่ฯ ที่ สน.ประเวศ

+++คดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน เข้าไปล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ถูกจับกุมพร้อมของกลางซากเสือดำ ซากหมูป่า ซากไก่ฟ้าหลังขาว และอาวุธปืน 3 กระบอก ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ พ.ร.บ.ป่าสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ รวม 9 ข้อหาซึ่งมีการยื่นสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการทองผาภูมิไปแล้ว ในวันนี้ นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เวลา 10.00 น. จะเดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอบคุณที่ดำเนินคดีเรื่องนี้