การพบผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ไปรับยาหมอแสงมีอาการรุนแรงมากขึ้น นพ.วีระวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวถึงว่าเรื่องนี้ถือว่าไม่เหนือความคาดหมาย แต่ต้องเข้าใจว่า กระบวนการตรวจสอบและศึกษาวิจัยยาของหมอแสงยังไม่สิ้นสุดและจำเป็นต้องขยายระยะเวลาในการตรวจสอบระดับเซลล์มะเร็งออกไปโดยคาดว่าจะสามารถแถลงผลการตรวจสอบและศึกษาวิจัยหมอแสงในระดับเซลล์มะเร็งได้ ในกลางเดือนเมษายน
ภาพที่ปรากฎผลการรักษามะเร็งที่ดูลุกลามนี้ ส่วนหนึ่งมีเกิดขึ้น และมาเมื่อโรคเริ่มลุกลามมากกว่าเดิม ส่วนใหญ่ต้องเข้าใจว่าคนไข้ที่เลือกหันหลังในการแพทย์แผนปัจจุบัน และไปแผนทางเลือก ไม่ได้มีการบอกกล่าว หรือกลับมารักษากับแพทย์คนเดิมและเลือกที่จะไปหาแพทย์คนใหม่แทน ทำให้การรักษาไม่ต่อเนื่องและไม่เข้าใจว่าคนไข้ผ่านการรักษาอะไรมาบ้างแล้ว
อีกทั้งคนไข้ส่วนใหญ่ของการรักษาหากได้รับยาฟรี วัฒนธรรมไทยก็จะสำนึกในบุญคุณ ไม่กล้ากล่าวโทษหรือตำหนิ จึงกลายมีลักษณะเช่นนี้ อยากให้สื่อมวลชนตระหนักถึงผลลัพธ์ของการรักษาโรคทุกชนิด ว่าเป็นดาบสองคม เพราะบางคนมีความหวังในการรักษา แต่ก็ไม่ได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน รอบด้าน ไม่ได้บอกว่าการรักษาแผนทางเลือกไม่ดีแต่ขอให้อดใจรอผลการศึกษาด้วย และอย่าได้ละทิ้งการรักษาแผนปัจจุบัน ไม่อยากให้คนไข้ต้องเสียโอกาสการรักษา อย่างน่าเสียดาย
ก่อนหน้านี้ แฟนเพจเฟซบุ๊ก บันทึกเรื่องน่ารู้ by Dr.Aduneของ รศ.นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ แพทย์ประจำสาขาศัลยศาสตร์ศีรษะ คอ และเต้านม ภาควิชาการศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โพสต์ข้อความบอกเล่า ความเจ็บปวดที่ได้จากการรักษาสมุนไพรที่ไม่ค่อยมีคนเล่าให้ฟัง พร้อม ภาพที่นำมาให้ดูเป็นภาพที่อาจารย์?หมอท่านหนึ่งโพสต์ให้เห็นว่า ในช่วงเดือนนี้มีคนไข้ลักษณะนี้มาหาหมอมากขึ้น เป็นมะเร็งที่ปล่อยไว้จนเป็นมาก ยากแก่การรักษา คนไข้กลุ่มนี้คือกลุ่มคนที่เสียโอกาส รู้ตัวว่าเป็นมะเร็งในระยะรักษาได้ แต่เลือกที่จะไปใช้สมุนไพร ทิ้งการรักษาหลักตามแผนปัจจุบันที่ได้รับการพิสูจน์ว่าได้ผล ทำให้เสียเวลา เมื่อรักษาสมุนไพรไปสักระยะหนึ่ง (ประมาณ 3-6 เดือน) พบว่าไม่ได้ผล โรคเป็นมากขึ้น ทนไม่ไหว จึงกลับมาพบแพทย์แผนปัจจุบัน
ภาพจากเฟซบุ๊ก บันทึกเรื่องน่ารู้ by Dr.Adune