นายกฯปัดเป็นปธ.ที่ปรึกษาพรรคประชารัฐ ย้ำทำหน้าที่คสช.ดูแลความสงบบ้านเมือง

13 มีนาคม 2561, 15:53น.


หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี   พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปฎิเสธว่า ขณะนี้ ยังไม่มีพรรคการเมืองใด เสนอให้เป็นประธานที่ปรึกษาพรรคกรณีพรรคประชารัฐ พร้อมยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคประชารัฐแต่อย่างใด โดยขอเวลาทำงานก่อน ส่วนเรื่องการเมืองก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนตัวไม่ได้พูดคุยกับพล.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล แกนนำพรรคประชารัฐซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 12 เพราะเพื่อนตนเองมีกว่า 200 คน ไม่จำเป็นต้องคุยหมดทุกคน



ส่วนการที่มีพรรคการเมืองใหม่จำนวนมากประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ  พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ไม่ใช่เพราะตนเองมีเสน่ห์ เพราะเสน่ห์เป็นเรื่องของการจีบสาว และยอมรับว่าไม่รู้สึกกดดันเพราะทุกอย่างเป็นอำนาจของประชาชนในการตัดสินในการเลือกตั้ง ซึ่งต้องตัดสินใจตามนโยบายของพรรคการเมือง และต้องมาดูว่าแต่ละพรรคเสนอนโยบายอย่างไร โดยขอให้ทุกคนต้องมาช่วยกันวิเคราะห์ว่าบ้านเมืองจะต้องเดินหน้าไปอย่างไรต่อไรพร้อมยังมองว่า การที่มีพรรคการเมืองใหม่สนับสนุนตนเอง เป็นเรื่องของการเมืองซึ่งมีทั้ง 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่สนับสนุนและไม่สนับสนุน ซึ่งทุกวันนี้ความเห็นในด้านต่าง ๆ ก็แบ่งเป็นสองฝ่ายเสมอเ ช่นฝ่ายสนับสนุนให้ปฏิรูป และฝ่ายไม่ต้องการปฏิรูป หรือฝ่ายหนึ่งต้องการให้กลับไปวุ่นวายเหมือนเดิม ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ โดยขอให้ประชาชนติดตามความเคลื่อนไหวในแต่ละพรรคการเมืองขณะนี้ ว่าใครออกมาพูดหรือให้ความเห็นอย่างไร



นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงข้อเรียกร้องที่ให้ตนเองลาออกจากตำแหน่งหากจะลงเล่นการเมือง โดยย้อนถามกลับว่าสมัยก่อนนักการเมืองที่เป็นรัฐบาลได้ลาออกจากตำแหน่งก่อนการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ ซึ่งสมัยก่อนนายกรัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้าพรรคก็ไปหาเสียงเลือกตั้งขณะที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  แต่ตนเองยังไม่ได้เป็นอะไร และไม่ได้หาเสียง แต่ทำงานอย่างหนักเพื่อให้ประเทศชาติเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นคนละเรื่องกันและขออย่าบิดเบือน อย่าให้เกิดความไม่เข้าใจ และจะทำให้ประชาชน รังเกียจตนเองและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)โดยหน้าที่ของคสช.วันนี้คือดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นหลัก ซึ่งหากนักการเมืองหรือพรรคการเมืองใด เป็นต้นเหตุทำให้เกิดความวุ่นวาย หรือความขัดแย้งรุนแรงก็จะต้องนำเข้าสู่กระบวนการของกฎหมาย โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่าเรื่องนี้ทุกคนทราบอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงฝ่าฝืนกันอยู่



นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงการทำหน้าที่ของคสช.ว่าจะยังคงทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ตามที่รัฐธรรมนูญใน ม.265 กำหนด ดังนั้นจึงถือว่าข้อเรียกของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่ให้ยุบ คสช. เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้  ส่วนกรณีที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)จะส่งร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.  และพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.  ให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่งตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า เรื่องนี้แล้วแต่นายมีชัย แต่ยืนยันว่าไม่มีเลื่อนการเลือกตั้งหรือทำให้ล่าช้า เพราะตนเองเคยบอกไปแล้วว่าทุกอย่างต้องไม่ล่าช้าและเป็นไปตามกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 เว้นแต่มีเหตุการณ์ที่บังคับไม่ได้ เพราะรัฐบาลบังคับศาลไม่ได้ แต่เชื่อว่าเวลาที่เหลืออยู่จะพิจารณาได้ทัน



พร้อมยอมรับว่าเรื่องนี้ ตนเองก็ไม่อยากให้ถึงขั้นฟ้องร้อง แต่จากที่รับฟังมาจากสื่อมวลชน พบว่านายมีชัยเป็นห่วง กลัวว่าจะเกิดการฟ้องร้องร่างกฎหมายดังกล่าวในอนาคต และจะทำให้การเลือกตั้งมีปัญหา ดังนั้นจึงขออย่าห่วง เพราะอย่างไรก็ได้เลือกตั้ง และขออย่ามาเร่ง คสช.  พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวด้วยว่า ตนเองไม่ต้องการใช้กฎหมายเพื่อมีอำนาจมาก เนื่องจากเคยบอกแล้วว่าไม่ต้องการอำนาจ แต่ต้องการเพื่อใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน จึงขอสื่อมวลชนอย่าตีความให้วุ่นวาย ซึ่งบางทีสื่อก็ถามวกไปวนมาจนตนเองงงเช่นกัน โดยวันหลังตนเองจะบันทึกคำถามสื่อบ้าง



 



 



ปิยะธิดา เพชรดี ผสข.

ข่าวทั้งหมด

X