ประชุมครม.ออกกม.คุมเงินดิจิทัล/3กลุ่มการเมืองขอจัดกิจกรรมพรรค/ของบกลางติดตั้งไอทีรัฐสภาใหม่

ในวันนี้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี นำคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ปิดเทอมสร้างสรรค์

สำหรับประเด็นที่น่าสนใจในการประชุมวันนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะเสนอร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กำกับดูแลการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อใช้ควบคุมดูแลสินทรัพย์การลงทุนประเภทดิจิทัลทั้งหมด และเตรียมจัดเก็บภาษีจากการระดมทุนหรือลงทุนในเงินดิจิทัล โดยกรมสรรพากรกระทรวงการคลังจะเป็นผู้เสนอ กำหนดอัตราเท่ากับอัตราภาษีเงินปันผลจากการลงทุนในหลักทรัพย์ โดยอยู่ที่ร้อยละ 10 ของเงินปันผล

ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้ง

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าสามารถชุมนุมได้แต่อย่าทำอะไรเกินกฎหมาย

นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษา พลเอก ประวิตร กล่าวว่าการที่มีกลุ่มการเมืองจดจองตั้งพรรคการเมืองจำนวนมากสะท้อนถึงความหลากหลายทางการเมือง รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะดูแลให้ทุกอย่างเดินหน้าไปอย่างราบรื่นเพื่อให้มีการเลือกตั้งในปี 2562 ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะนักศึกษาเห็นว่ายังอยู่ในกรอบและเรียบร้อยดี แต่ต้องเฝ้าระวังคนที่ต้องการขยายผลจากการเคลื่อนไหว หากพบความผิดปกติ ฝ่ายความมั่นคงต้องดำเนินการ

นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่าขณะนี้มีกลุ่มการเมืองที่ยื่นคำขอทำกิจกรรมทางการเมืองเพียง 3 กลุ่ม จึงนำเสนอ คสช.พิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่

ส่วนที่รัฐสภาในวันนี้ มีการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญและ วิป สนช. ซึ่งยังต้องติดตามกรณีที่มีการขอเพิ่มงบประมาณก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งนายสรศักดิ์ เพียงเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ยืนยันเรื่องการเตรียมเสนอของบประมาณจาก ครม. 8,658 ล้านบาท เพื่อใช้ในการติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และส่วนที่เกี่ยวข้อง

นายประสิทธิ์ อนันตวิรุฬห์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า งบประมาณที่ขอไป 8,658 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็น 3 งวด เมื่อได้งบประมาณก้อนแรกแล้วจึงจะเปิดให้บริษัทต่างๆ ยื่นซองประมูลประมาณเดือนเมษายนนี้

เมื่อวานนี้ พลเอก ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อเตรียมการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน 2562 หรืออาเซียนซัมมิท โดยในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ประเทศไทยจะรับมอบการเป็นประธานอาเซียนต่อจากสิงคโปร์ ซึ่งจะมีการจัดประชุมใหญ่ 2 ครั้งในปี 2562 และมีการประชุมย่อยในหัวข้อที่เกี่ยวข้องอีกหลายครั้ง

และในวันที่ 29 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ เป็นประธาน ซึ่งนายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่ากรมจะเสนอแผนการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลในส่วนที่เหลือ 2 ล้าน 4 หมื่นตัน แบ่งเป็น ข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนบริโภค (กลุ่ม 2) ปริมาณ 1 ล้าน 5 แสนตันข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์บริโภค (กลุ่ม 3) ปริมาณ 5 แสนตันและข้าวที่คนบริโภคได้ (กลุ่ม 1)อีก 4 หมื่นตัน ซึ่งเหลือจากการที่ผู้ซื้อที่ชนะการประมูลไม่มารับมอบข้าวตามสัญญา และกรมราชทัณฑ์มารับข้าวเพียง 3 หมื่นตันจากที่ต้องการซื้อ 5 หมื่นตัน ซึ่งตามแผนการระบายข้าวหลังผ่านการพิจารณา จะเป็นการเปิดระบาย 2 ช่วงคือ ช่วงแรก ตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 2561 หากไม่หมดจะนำมาเปิดรอบ 2 คือ ช่วงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2561

...