รมว.ทรัพยากรฯ ย้ำไม่มีความขัดแย้งทำคดีเปรมชัยกับตร.สั่งฟ้อง9ข้อหา

การประชุมติดตามคดี นายเปรมชัย กรรณสูตประธานบริหารบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดีเวลลอปเม้น จํากัด (มหาชน) กับพวกในกรณีการล่าสัตว์ในเขตทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก หลังใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง  พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 ทุกอย่างเกือบเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด ทั้งในส่วนพนักงานสอบสวน การพิสูจน์หลักฐาน และนิติวิทยาศาสตร์  และยืนยันว่าพนักงานสอบสวนสามารถส่งสำนวนให้อัยการได้ทัน ซึ่งหากอัยการมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็สามารถร้องขอมายังพนักงานสอบสวนได้ยืนยันพยานหลักฐานมีความแน่นหนาครอบคลุม ข้อหาทั้ง 9 ข้อ ที่มีการสั่งฟ้อง และย้ำว่าไม่มีการเบี่ยงเบนตั้งวันแรกจนถึงวันนี้มีแต่เพิ่มความแน่นหนามากขึ้น  เน้นเฉพาะความผิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตกเท่านั้น

ส่วนในคดีการครอบครองงาช้างแอฟริกา อาวุธ ที่ดินในพื้นที่ภูเรือ เขาสอยดาว และการติดสินบนเจ้าหน้าที่ จะให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวดำเนินการไปตามขั้นตอนกฎหมาย  พร้อมย้ำว่าไม่มีความขัดแย้งกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และส่วนเปลี่ยนตัวผู้ดูแลคดีก็ไม่ได้อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่กระทรวงทรัพฯ อีกด้วย

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า ไม่สามารถตรวจสอบลายนิ้วมือได้เนื่องจาก กรมอุทยานฯ ได้ใช้สารเคมีในการตรวจทำให้ลายมือหายไป พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์  ยืนยันว่าการตรวจสอบเป็นคนละส่วนกัน เนื่องจากทางด้านพิสูจน์หลักฐานของตำรวจจะทำหน้าที่ตรวจสอบดีเอ็นเอ อัตลักษณ์บุคคล ขณะที่กรมอุทยานฯ ได้ทำการตรวจสอบในส่วนดีเอ็นเอของสัตว์ป่า โดยระบุว่าได้ทำการตรวจทั้งดีเอ็นเอ คราบเลือดและเขม่าดินปืนเป็นที่เรียบร้อย และสามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้กระทำผิดได้ ซึ่งพบดีเอ็นเอของผู้ถูกกล่าวหาทุกคน

ปิยะธิดา เพชรดี ผสข.