ความคืบหน้าคดีสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัล 30 ล้านบาท ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยมีพลตำรวจตรี ชาญ วิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พลตำรวจตรี ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม พลตำรวจตรีกมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป. ) และคณะทำงานชุดคลี่คลายคดี เข้าร่วมการประชุม
พลตำรวจโท ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้เป็นหาแนวทางในการดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าได้เปิดเผยข้อมูลไปมากแล้ว ทั้งที่เป็นเรื่องไม่ควรจะเปิดเผย โดยยืนยันตำรวจทำงานไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ไม่ได้คิดไปเอง แต่ก็เปิดเผยไม่ได้ว่าได้ข้อมูลมาอย่างไร เพราะเป็นเรื่องของสำนวน ยืนยันว่าจะดำเนินคดีนี้ให้ดีที่สุด และไม่ต้องกังวลว่าจะมีการเข้าข้างคนผิด
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมไม่ขอศาลออกหมายจับ พลตำรวจตรี สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรี พลตำรวจโทฐิติราช กล่าวว่า พนักงานสอบสวนทำงานไปตามขั้นตอนกฎหมาย ที่ผ่านมาศาลก็ให้ความเมตตาจนสามารถออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีได้ และการที่พนักงานสอบสวน ปปป. แจ้งข้อหามาตรา157 ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เนื่องจากคดีเริ่มจากความเชื่อไม่ใช่การทุจริต ซึ่งสังคมไม่ต้องกังวลและกดดันการทำงานของตำรวจเพราะจะทำให้เสียกำลังใจ
ส่วนที่มีกระแสจากโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับวลี “สะกดจิตหมู่ “ ยืนยันว่าไม่ใช่การสะกดจิต แต่เป็นลักษณะความสามารถในการโน้มน้าวใจให้เชื่อในคำพูดของบุคคลนนั้นได้อย่างแยบยล
นอกจากนี้พลตำรวจโท ฐิติราช ยังได้กล่าวถึงคดีสลากกินแบ่งรัฐบาลในพื้นที่ จังหวัดอุดรธานี ที่จะมีพฤติการณ์คล้ายกับคดีสลากกินแบ่งรัฐบาลในพื้นที่กาญจนบุรีหรือไม่นั้น จะต้องดูพยานหลักฐานทั้งหมดในที่ประชุมก่อน แต่ทุกคดีเริ่มต้นจากผู้ขายและผู้ซื้อ ซึ่งตำรวจจะไม่ปฏิบัติหน้าที่จากความเชื่อ แต่จะดูจากพยานหลักฐานและนิติวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถชี้ได้ว่าใครถูกหรือผิดได้ แต่คาดว่าจะดำเนินการทุกคดีให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์นี้
...
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ