สามีของผู้เสียชีวิตหลังการผ่าตัด ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรักษาก่อนที่ภรรยาจะเสียชีวิต

กรณีนายเกรียงไกร ทรัพย์ศิริอยู่คง อายุ 29 ปี พบแพทย์ภาควิชานิติเวชศาตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อขอรับฟังผลการตรวจชันสูตรชิ้นเนื้อ 4 ชิ้น ประกอบด้วย ชิ้นส่วนทารก A กับ B เท่านั้น แต่มดลูกและรังไข่ ของนางสาวศุภนุช สัปปัชชา อายุ 23 ปี ภรรยา ที่เสียชีวิตภายหลังเข้ารับการผ่าตัดนำทารกแฝดอายุ 9 สัปดาห์ออกจากครรภ์

นายเกรียงไกร เปิดเผยว่า การเข้ารับฟังผลการชันสูตรจากแพทย์ครั้งนี้ ไม่ให้ทางครอบครัวเข้ารับฟังด้วย ให้เพียงนายเกรียงไกรเข้ารับฟังคนเดียวเท่านั้น โดยแพทย์ระบุถึงกรณีที่ทางแพทย์ไม่สามารถคืนชิ้นส่วนมดลูกและรังไข่ให้ได้ เนื่องจากจะต้องนำไปเพาะเชื้อ และจะทราบผลภายใน 1 เดือน และเมื่อเพาะเชื้อเสร็จเรียบร้อย แพทย์ก็ไม่สามารถคืนชิ้นส่วนทั้ง 2 ชิ้นเพราะเป็นระเบียบทางการแพทย์ ส่วนทารก A กับ B แพทย์จะคืนให้ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวัน เวลาราชการ แพทย์ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตว่ามาจากปอดติดเชื้อ เนื่องจากการท้องนอกมดลูก โดยภรรยาท้องบริเวณปีกมดลูก ซึ่งไม่สามารถรองรับเด็กได้ ทำให้เกิดอาการเลือดออก ผลจากการชันสูตรยังพบว่ามีเลือดออกในช่องท้องของภรรยามากกว่า 1 ลิตร นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือขอเอกสาร รายละเอียดการรักษาจากโรงพยาบาลไทยนครินทร์ ซึ่งทางโรงพยาบาลระบุว่าจะทราบผลภายใน 3 วัน แต่เมื่อวานนี้แพทย์โทรศัพท์มาขอเลื่อน เนื่องจากยังรับรองเอกสารไม่ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ยังสงสัย คือ ทำไมการเกิดปอดอักเสบ ถึงได้เป็นอย่างรวดเร็วและเสียชีวิตกระทันหัน ประเด็นของเจ้าหน้าที่ที่ใช้เครื่องฟอกไต ว่ามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เครื่องดีหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้โรงพยาบาลแจ้งว่าเครื่องฟอกไตเสีย ขณะที่กำลังฟอกไตภรรยา รวมทั้งประเด็นการท้องนอกมดลูก เนื่องจากมีการอุลตร้าซาวน์หลายครั้ง แต่ทำไมแพทย์จึงไม่ทราบว่าท้องนอกมดลูก

หลังจากนี้ตนจะกลับไปปรึกษากับทางครอบครัว ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับทางโรงพยาบาลไทยนครินทร์ รวมทั้งการนำทารก A และ B กลับ ว่าทางญาติจะให้ฌาปนกิจไปพร้อมกับภรรยา หรือจะเก็บทารกทั้งสองเอาไว้ก่อน ซึ่งทางส่วนตัวอยากเก็บทารกทั้งสองเอาไว้ เผื่อในอนาคตแพทย์จะต้องใช้ตรวจในกรณีอื่นๆ อีก

...

ผสข.ปภาดา พูลสุข