สามีผู้เสียชีวิตหลังการผ่าตัดที่รพ.ไทยนครินทร์พิจารณาดำเนินการทางกฎหมายกับรพ.

กรณีที่นางสาวศุภนุช สัปปัชชา อายุ 23 ปี เสียชีวิตภายหลังเข้ารับการผ่าตัดนำทารกแฝดอายุ 9 สัปดาห์ออกจากครรภ์ เนื่องจากมีอาการแทรกซ้อนหลายโรค เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2561 ที่โรงพยาบาลไทยนครินทร์

นายเกรียงไกร ทรัพย์ศิริอยู่คง อายุ 29 ปี สามีของนางสาวศุภนุช เปิดเผยว่า เบื้องต้นผลจากการตรวจชันสูตรจากแพทย์ภาควิชานิติเวชศาตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าภรรยาเสียชีวิตจากปอดอักเสบ และในวันนี้ทางแพทย์โทรศัพท์มาแจ้งว่า ภรรยาเสียชีวิตจากการตั้งครรภ์นอกมดลูก ขณะเดียวกันวันนี้ตนเดินทางมารับฟังผลการชันสูตรชิ้นเนื้อทั้ง 4 ชิ้นที่จะออกในช่วงเที่ยงวันนี้

นายเกรียงไกร ยืนยันว่า ภรรยาของตนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ตรวจพบเป็นเพียงพาหะนำโรคธารัสซีเมีย แต่ไม่มีผลต่อเด็กในครรภ์ ซึ่งจากการฝากท้อง และอัลตราซาวน์ 3-4 ครั้ง แพทย์โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ยืนยันว่าเด็กมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี แต่ภรรยากลับมีอาการปวดท้องอย่างต่อเนื่องและมีเลือดออก จึงปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลหลายแห่งซึ่งต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นอาการของการตั้งครรภ์นอกมดลูก ขอให้หมอตรวจให้ละเอียด เมื่อไปถามแพทย์ที่โรงพยาบาลไทยนครินทร์อีกครั้ง ก็ได้รับคำยืนยันเช่นเดิมว่าปกติ จนกระทั่งภรรยาปวดท้องรุนแรง และแพทย์กลับมาบอกว่า1ในเด็กแฝดในครรภ์ทะลุมดลูกออกมาอยู่นอกมดลูก จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดแบบเร่งด่วน จึงไปปรึกษาแพทย์จากโรงพยาบาลอื่นๆ อีกครั้ง และพบว่าการที่เด็กทะลุมดลูก มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก เทียบเท่ากับหนึ่งในล้าน จึงไม่เข้าใจว่าทำไมแพทย์ที่รักษาจะต้องโกหก หากพบว่าท้องนอกมดลูก จำเป็นจะต้องเอาเด็กออกตั้งแต่แรก ไม่ควรปล่อยไว้เนิ่นนาน เพราะจะเกิดอันตรายกับแม่ของเด็ก หลังจากที่ภรรยาเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลไทยนครินทร์ ระบุในใบแจ้งการตายว่า ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้ รวมทั้งเร่งรัดให้ฉีดฟอร์มาลีน จึงรีบนำศพภรรยามาชันสูตรที่นี่ และจนถึงขณะนี้ครอบครัวยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ และชี้แจงใดๆจากโรงพยาบาลมีเพียงการแถลงแสดงความเสียใจเท่านั้น ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้จะได้รับความชัดเจนว่าทางครอบครัวจะเอาผิดทางกฎหมายกับโรงพยาบาลไทยนครินทร์หรือไม่ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาทางญาติยังอยู่ในช่วงเวลาเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขณะนี้ยังไม่มีการตั้งทนายความ

นายเกรียงไกร ระบุว่า วันนี้จะสวดศพภรรยาวันสุดท้าย และพรุ่งนี้จะทำพิธีฌาปนกิจ ที่วัดสำโรงเหนือ

อย่างไรก็ตาม วันนี้ทางครอบครัว ทำหนังสือขอรับชิ้นส่วนของนางสาวศุภนุช ได้แก่ ชิ้นส่วนทารก A ทารก B มดลูกและรังไข่ รวม 4 ชิ้น หลังจากก่อนหน้านี้เคยทำมาขอด้วยวาจา แต่ทางภาควิชานิติเวชศาตร์ ระบุว่าจะให้เพียง ชิ้นส่วนทารก A กับ B เท่านั้น แต่มดลูกและรังไข่ จะต้องทำลาย ซึ่งทางครอบครัวต้องการชิ้นส่วนไปทำพิธีทางศาสนา

...

ผสข.ปภาดา พูลสุข