ตร.ท่องเที่ยว เตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับคนไทยเกือบ 100 ราย เปิดบัญชีให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

การจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากการขยายผลหลังการจับกุมนายชนชน เพชรดี อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ที่เป็นผู้จัดหาคนไปเปิดบัญชี เพื่อเป็นบัญชีรับโอนเงินที่ได้จากการหลอกลวง ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดินแดง และ สภ. สมุทรปราการ รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาอีก 5 ราย คือ นายธนาธิปัตย์ สุทธารัตน์วิศาล, นางพัชริดา เรียนเจริญ, นายชวกร อภิรักษาภรณ์ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและเป็นซ่องโจร นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุมนายจักรพงษ์ เย็นพระพาย และนายฐนา จุลวัฒน์ ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 รายนี้ ทราบว่า เป็นเจ้าของบัญชีและรับโอนเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากต่างประเทศ แลกกับค่าจ้างส่วนแบ่งร้อยละ 4 และยังสารภาพว่ารู้จักกับนายชนชนในเรือนจำ ประกอบกับยังไม่มีงานทำ จึงยอมรับจ้างเปิดบัญชีหาเงินมาใช้จ่าย และเที่ยวเตร่

นอกจากนี้ ตำรวจยังสามารถจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลุ่มเดียวกันได้อีก โดยเป็นชาวมาเลเซีย 2 ราย คือ นายไลคา ชุน และนายโลไวฮุง ผู้ต้องหาที่ตระเวนกดเงินสดตามตู้ ATM ในพื้นที่จังหวัดสงขลา, จ.นครศรีธรรมราช, จ.ภูเก็ต, จ.สุราษฎร์ธานี, จ.ประจวบคีรีขันธ์ และจ.เพชรบุรี โดยตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเพชรบุรี พร้อมของกลางเงินสดกว่า 1 แสนบาท สลิปการโอนเงินถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศมาเลเซีย

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 2 รายนี้ เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพื่อทำหน้าที่กดเงิน และโอนเงินให้กับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากที่ไม่สามารถว่าจ้างคนไทยให้กดเงินได้ โดยผู้ต้องหา 2 รายนี้จะใช้วิธีการโอนผ่านแทปเล็ต เพื่อโอนเงินเข้าบัญชี ก่อนที่เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศมาเลเซียจะกดเงินสดออกไปครั้งละ 5 หมื่นบาท

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ระบุว่า ภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะขอศาลอนุมัติหมายจับคนไทยเกือบ 100 ราย ที่เคยรับจ้างเปิดบัญชีให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดขอนแก่น, อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา , จ.นครราชสีมา และกรุงเทพมหานคร โดยพบผู้ว่าจ้างเป็นชาวไต้หวัน และเป็นหัวหน้าขบวนการใหญ่ แม้ว่าผู้รับจ้างเปิดบัญชีเกือบ 100 ราย จะปิดบัญชีไปแล้ว แต่ความผิดเกิดขึ้นแล้วจึงจำเป็นต้องติดตามจับกุมมาดำเนินคดีทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในเร็วๆ นี้ จะเปิดปฏิบัติการร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเข้าจับกุมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีคนไทยร่วมก่อเหตุด้วย

ผู้สื่อข่าว:ปภาดา พูลสุข