หลังการสอบปากคำพลตำรวจตรีสุทธิ พวงพิกุล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีนานกว่า1ชั่วโมง พลตำรวจตรีกมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เปิดเผยว่า พลตำรวจตรีสุทธิให้การปฏิเสธในข้อหามาตรา157 ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยขอเวลา15วันในการรวบรวมพยานหลักฐาน มาให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน ส่วนพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการกู้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของร้อยตำรวจเอกจิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล รองสารวัตรสอบสวนสภ.เมืองกาญจนบุรี เบื้องต้นพบว่ามีการแก้ไขสำนวนคดีอย่างแน่นอน รวมทั้งยังพบบันทึกสำนวนการให้ปากคำของนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น อยู่ภายในลิ้นชักโต๊ะทำงานด้วย
อย่างไรก็ตามหากพลตำรวจตรีสุทธิจะกล่าวอ้างว่าเป็นการกระทำโดยไม่มีเจตนาทุจริตนั้น แต่ความผิดตามมาตรา157 ได้ครอบคลุมไปถึงการกระทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายด้วย ซึ่งการกระทำของพลตำรวจตรีสุทธิเข้าข่ายกฎหมายดังกล่าว
ส่วนการพิจารณาให้พักราชการหรือออกจากราชการหรือไม่นั้น ต้องทำรายงานการแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อน ซึ่งคดีนี้ปปป.จะต้องทำสำนวนและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช).ภายใน30วัน
ด้านนายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความของพลตำรวจตรีสุทธิ ยืนยันว่า จะยกข้อต่อสู้มาโต้แย้งทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา แต่ในวันนี้ต้องขอเวลากลับไปรวบรวมพยานหลักฐานก่อนกลับมาชี้แจงอีกครั้ง ซึ่งพลตำรวจตรีสุทธิยังเชื่อมั่นว่าตัวเองทำตามหน้าที่และทำโดยสุจริต ส่วนที่มีการแถลงข่าวเมื่อช่วงบ่ายที่ระบุว่าพลตำรวจตรีสุทธิทำหน้าที่ด้วยความเชื่อนั้น ก็จะต้องไปตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน พร้อมรับหากมีการพิจารณาให้พักราชการหรือออกจากราชการ และจากการพูดคุยกับพลตำรวจตรีสุทธิไม่มีอาการเครียด แต่ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อครอบครัวและคนรอบข้าง มีรายงานข่าวว่า วันนี้พนักงานสอบแจ้งข้อกล่าวหาพลตำรวจตรีสุทธิโดยบรรยายพฤติการณ์ทั้งหมด4หน้ากระดาษ
ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ ผสข.