การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ล่าสุดที่ประชุมเริ่มเข้าสู่การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ที่คณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายพิจารณาแล้วเสร็จ นาย วิทยา ผิวผ่อง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการร่วมฯ ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. คณะกรรมาธิการร่วมฯมีการพิจารณาแก้ไขทั้งสิ้น 8 มาตรา ผลการพิจารณาคณะกรรมาธิการร่วมฯมีมติให้คงไว้ตามร่างเดิม 3 มาตรา, ให้คงไว้ตามร่างเดิมแต่ปรับปรุงถ้อยคำให้สอดคล้องขึ้น 3 มาตรา และให้แก้ไขในสาระสำคัญ 2 มาตรา คือมาตรา73 ว่าด้วยการแก้ไขห้ามให้มีการจัดมหรสพและงานรื่นเริงระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง และมาตร86 ว่าด้วยการปรับเวลาการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยแก้ให้เปิดหีบได้ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00น. จากเดิมที่กำหนดไว้ 07.00-17.00น. จากนั้นนาย สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. ในฐานะประธานการประชุม ชี้แจงต่อว่า จะเปิดให้สมาชิกสนช.อภิปรายเฉพาะประเด็นที่มีการแก้ไข ก่อนทำการลงมติครั้งเดียวเลยว่า สมาชิกสนช.จะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ทั้งร่าง โดยจะลงมติหลังการพิจารณาเเล้วเสร็จทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ที่ประชุมสนช. ยังได้มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน(ปปง.) คือ พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการปปง. โดยที่ประชุมสนช.มีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 17 คน เพื่อตรวจสอบความประพฤติ คุณธรรม และจริยธรรมของพล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ ก่อนเป็นระยะเวลา 45 วัน ก่อนที่จะพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่ต่อไป
และมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 17 คน ระยะเวลาดำเนินงาน 45 วัน ในการทำหน้าที่ตรวจสอบความประพฤติ คุณธรรม และจริยธรรมของนางภรณี ลีนุตพงษ์ ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินคนใหม่ จากคณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อเข้ามาทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง ก่อนที่จะนำผลตรวจสอบความประพฤติฯที่ได้มาพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่ในภายหลัง