พรรคพลังธรรมใหม่ เสนอรัฐชะลอการประมูลต่ออายุแหล่งพลังงาน รอหลังเลือกตั้ง

กรณีการทำทีโออาร์ของรัฐบาลในการประมูลต่ออายุแหล่งบงกชและเอราวัณ
นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เปิดเผยว่า พรรคพลังธรรมใหม่มีความเห็นให้การประมูลต้องมีความเป็นธรรม โปร่งใส หลังพบข่าวว่ารัฐบาลมีแนวโน้มเอียงไปทางผู้ที่ได้รับสัญญาประมูลในปัจจุบันผ่านการเข้าปรึกษากัน
นอกจากนี้ พรรคมีข้อเสนอให้รัฐบาลหันมาใช้ระบบสัญญาจ้างผลิตแทนระบบแบ่งปันผลผลิตที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะทำให้รัฐได้ส่วนแบ่งจากการผลิตเป็นร้อยละ 90 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงร้อยละ 40แล้ว ยังทำให้รัฐมีสถานะเป็นผู้จ้างการผลิต ซึ่งสามารถรู้ผลผลิตก๊าซธรรมชาติที่แท้จริงได้ ส่วนอุปกรณ์ต่างๆในการผลิตก็จะเป็นของรัฐด้วย ที่สำคัญถ้าเปลี่ยนมาเป็นระบบจ้างผลิต จะทำให้ราคาก๊าซลดอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระประชาชน โดยปัจจุบันราคาก๊าซปากหลุมของแหล่งบงกชและเอราวัณอยู่ที่ 167-267 บาทต่อ 1ล้านบีทียู ต่างจากสหรัฐฯที่ราคาอยู่ที่ 82 บาทต่อ 1 ล้านบีทียู ซึ่งขณะนี้ทุกประเทศล้วนใช้ระบบสัญญาจ้างผลิตทั้งสิ้น พรรคยังเห็นว่าไม่ควรใช้ระบบท่อก๊าซให้ผูกขาดโดยผู้ประมูลทั้งหมด เพราะจะทำให้ผู้ประมูลให้ส่วนแบ่งแก่รัฐลดลง
ดังนั้นพรรคจึงขอให้รัฐบาลเร่งแก้สัญญาทีโออาร์ หรืออย่างน้อยให้ชะลอการประมูลออกไปจนกว่าจะเลือกตั้งแล้วเสร็จ เพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่ หรือพรรคพลังธรรมใหม่เข้ามาจัดการแทน
ทั้งนี้ จากการประเมินยังพบว่าแหล่งบงกชและเอราวัณมีความสามารถในการผลิตก๊าซธรรมชาติต่อได้อีกหลายสิบปี และเกือบร้อยละ 70 ของก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ทั้งหมดของประเทศมาจากทั้งสองแหล่งนี้
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร