ม็อบชาวพุทธในศรีลังกา ทำร้ายชาวมุสลิมในช่วงที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน

07 มีนาคม 2561, 20:38น.


รอยเตอร์ รายงานอ้างนายรุวัน กุนาสิการ โฆษกสำนักงานตำรวจศรีลังกาว่า ชาวพุทธกลุ่มหนึ่งบุกเข้าไปทุบทำลายมัสยิดและร้านค้าของชาวมุสลิม ชนกลุ่มน้อยในเมืองแคนดีทางภาคกลางของประเทศเมื่อคืนวาน ถึงแม้ว่าประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนาของศรีลังกาจะประกาศภาวะฉุกเฉิน 7 วัน มีผลตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อควบคุมความสงบเรียบร้อยในประเทศ พร้อมทั้งมีการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตในบางท้องที่หลังตำรวจพบว่ามีการใช้เฟซบุ๊คเพื่อปลุกระดมให้ชาวพุทธ โจมตีมัสยิดและร้านค้าชาวมุสลิมเช่นกัน



ขณะเดียวกัน ตำรวจจับผู้ต้องหา 7 คน มีตำรวจบาดเจ็บ 3 นาย แต่ไม่มีข้อมูลว่ามีพลเรือนทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บกี่คน มาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดเหตุยกพวกทำร้ายกันระหว่างชาวพุทธกับชาวมุสลิมเมื่อคืนวันอาทิตย์ เป็นเหตุให้วัยรุ่นชาวพุทธคนหนึ่งเสียชีวิต สำหรับเมืองแคนดีเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของศรีลังกาที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมไปเที่ยวชมไร่ชา



ด้านนายสารัฐ อามูนุกามา รัฐมนตรีระดับสูงคนหนึ่งของศรีลังกา เชื่อว่า เหตุรุนแรงครั้งล่าสุดในเมืองแคนดีอาจจะเป็นผลเนื่องจากการที่คนจากนอกพื้นที่สมคบและแบ่งหน้าที่กันเข้าไปสร้างเหตุความไม่สงบในเมืองแคนดี รัฐบาล จะปกครองประเทศโดยยึดหลักนิติธรรม แม้ว่าชาวพุทธ จะเป็นประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 70 ของศรีลังกา จากจำนวนประชากรทั้งหมด 21 ล้านคน รองลงมาคือชาวฮินดู ร้อยละ 13 ขณะที่ชาวมุสลิม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9



เกิดปัญหาตึงเครียดระหว่างชุมชนพุทธกับมุสลิมในศรีลังกามาตลอดเมื่อปีที่แล้ว หลังกลุ่มชาวพุทธแนวคิดสุดโต่งบางคนกล่าวหาชาวมุสลิมว่าบังคับให้ชาวพุทธให้เปลี่ยนไปนับถืออิสลาม พร้อมทั้งทุบทำลายแหล่งโบราณสถานหลายแห่งของชาวพุทธให้ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ชาวพุทธแนวคิดชาตินิยมบางคนได้ประท้วงกรณีชาวมุสลิมโรฮิงญาหลบหนีเหตุรุนแรงในเมียนมา เพื่อขอลี้ภัยในศรีลังกา



ทีมต่างประเทศ



CR:Reuters



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X