พรรคพลังธรรมใหม่ เปิด4นโยบาย ประชุมพรรคทันทีที่คสช.อนุญาต

หลังพรรคพลังธรรมใหม่ ขอจดแจ้งเตรียมจัดตั้งพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เปิดเผยจุดยืนว่า มีเป้าหมายคือการเป็นรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาประเทศ โดยแคนดิเดท 3 คนที่จะเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี 1 ในนั้นจะมีหัวหน้าพรรคแน่นอน  ทั้งนี้ พรรคมีจุดยืนเรื่องการสรรหาคนดี มีคุณธรรม มาเป็นนายกฯ  แต่ถ้าไม่ได้เสียงข้างมากก็พร้อมที่จะร่วมเป็นรัฐบาลผสมกับพรรคที่มีผู้นำที่มีคุณธรรม เพื่อเสนอชื่อนายกฯ จากพรรคดังกล่าวมาแก้ปัญหา และไม่เข้าร่วมกับพรรคที่มีปัญหาเรื่องคอรัปชั่น ทั้งนี้ ยังบอกไม่ได้ว่าใครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการเป็นผู้นำที่ดีตามวิสัยทัศน์ของพรรค แต่พรรคมีจุดยืนที่จะไม่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย, พรรคประชาธิปัตย์, กลุ่มกปปส. และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แน่นอน แต่ก็ไม่ขอวิจารณ์ว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นบุคคลที่ดีตามวิสัยทัศน์ของพรรคหรือไม่ คาดว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าน่าจะเป็นการแข่งกันระหว่างกลุ่มที่หนุนพล.อ.ประยุทธ์ และพรรคเพื่อไทย ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่การเมืองเปิดกว้าง แล้วพรรคไม่สามารถตั้งเป็นรัฐบาลได้ พรรคจะให้สมาชิกลงเสียงเพื่อหาบุคคลที่ควรเป็นนายกฯที่เหมาะสมที่สุดตามวิสัยทัศน์ของพรรค

ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้า คาดว่า จะสามารถส่งผู้สมัครลงได้ทุกเขต ประเมินที่นั่งในสภาอย่างต่ำ 25 ที่นั่ง ขณะนี้รวมตัวกลุ่มบุคคลที่จะสนับสนุนพรรคได้ไม่ต่ำกว่าพันคนแล้ว มีทั้งอดีตส.ส.และผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์, อดีตแกนนำกปปส.อย่างทีมของนายแพทย์ระวี, นายทหารและตำรวจระดับสูง พร้อมทั้งมีการตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดเพื่อทำงาน มีหลักเกณฑ์เลือกสมาชิกที่ต้องไม่สร้างความวุ่นวายและต้องไม่ทำให้เกิดเรื่องคอรัปชั่น

นโยบายหลักของพรรคมี 4 ประการ คือ การปราบทุจริต, การแก้ปัญหาคนยากจน โดยเฉพาะเกษตรกรและมนุษย์เงินเดือน, เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการศึกษา และการเสนอนโยบายให้ทุกคนมีหมอประจำตัว รวมถึงการปฏิรูปเรื่องพลังงานและแรงงาน เป็นต้น

ขณะเดียวกัน พรรคได้ยื่นขอเปิดประชุมพรรคต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ไปแล้วตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ใน 2 กิจกรรม คือ หาผู้ร่วมจัดตั้งพรรค และจัดตั้งแกนนำพรรค แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ คาดว่า จะเปิดประชุมพรรคได้ในช่วงปลายเดือนเมษายนหรือต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งเมื่อพรรคเปิดประชุมแล้วจะเลือกหัวหน้าพรรคพร้อมทั้งประกาศวิสัยทัศน์อีกครั้ง

ผู้สื่อข่าว : ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร