ป.ป.ส.เปิดประมูลทรัพย์สินประเภทรถยนต์–รถจยย.ของกลางในคดียาเสพติด ได้เกือบ14ล้าน

หลังการขายทอดตลาดทรัพย์สินในคดียาเสพติด ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) โดยเป็นทรัพย์สินที่ยึดไว้ระหว่างดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติ มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 เป็นทรัพย์สินที่มีสภาพไม่เหมาะกับการเก็บรักษา หรือเก็บไว้จะเป็นภาระแก่ทางราชการเสี่ยงต่อความเสียหาย และทรัพย์สินที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ริบตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การประมูลวันนี้ มีนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการป.ป.ส. เป็นประธานเปิดงานด้วย 

ซึ่งบรรยากาศการประมูลตลอดทั้งวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก และได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมประมูลอย่างมาก ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ที่เริ่มเปิดประมูล โดยในทรัพย์สินรถยนต์หรู รถจักรยานยนต์ และทรัพย์สินในหมวดยานพาหนะ มีมูลค่าการประมูลทั้งสิ้น 13,999,200 บาท

ขณะที่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลลัมโบกินี่ ไฮไลท์สำคัญของงานที่สำนักงาน ป.ป.ส นำมาขายทอดตลาด โดยเป็นทรัพย์สินของนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ เริ่มต้นประมูล 21 ล้านบาท ในวันนี้ยังไม่มีผู้ใดประมูลไปได้ เช่นเดียวกับรถนั่งส่วนบุคคล Benz C200 Bluetec Hybrid ราคาเริ่มต้นประมูล 2 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในทรัพย์สินที่ไม่ได้ถูกประมูลในวันนี้ จะรวบรวมเก็บไว้เพื่อใช้ในการประมูลครั้งต่อไป

ส่วนทรัพย์สินประเภททองรูปพรรณ ยอดรวมการประมูลคิดเป็นมูลค่า 4,378,000 บาท ทรัพย์สินประเภทกระเป๋าแบรนด์เนมมีมูลค่าประมูล 1,073,100 บาท

ทั้งนี้ ทางสำนักงาน ป.ป.ส ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้จัดให้มีการขายทอดตลาดทรัพย์สินในคดียาเสพติดประเภทต่างๆเป็นประจำทุกเดือนและในช่วง 3 ปีมูลค่าที่ได้รับจากการขายทอดตลาด ตั้งแต่ปี 2559-2561 มีทรัพย์สินขายทอดตลาดทั้งสิ้น 11,484 รายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 420,941,736 ล้านบาท

หลังเสร็จสิ้นการประมูล ป.ป.ส.สรุปว่าทองรูปพรรณและวัตถุมงคลประมูลได้ จำนวนรวม 170 รายการ คิดเป็นเงินจำนวน 4,378,000  บาท และสามารถขายทรัพย์สินในคดีซึ่งมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดไว้และมีสภาพไม่เหมาะสมกับการเก็บรักษา ประเภทยานพาหนะ ได้จำนวนรวม 57 รายการ คิดเป็นเงิน จำนวน13,999,200 บาท และประเภทกระเป๋าแบรนด์เนมและพระพุทธรูป ได้จำนวนรวม 139 รายการ คิดเป็นเงิน 1,631,100 บาท
รวมทรัพย์สินที่สามารถขายได้ จำนวน 366 รายการ เป็นเงินรวม จำนวน 20,008,300 บาท สำหรับเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งจะนำมาใช้เป็นงบประมาณสนับสนุนภาครัฐในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และเงินอีกส่วนหนึ่งที่หักภาระหนี้เช่าซื้อแล้ว สำนักงาน ป.ป.ส.จะเก็บรักษาไว้แทนทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สิน

ผู้สื่อข่าว :เกตุกนก ครองคุ้ม