เกาหลีเหนือส่งวัตถุดิบขีปนาวุธให้ซีเรียและเมียนมา/บ.พลังงานสหรัฐถอนร่วมทุนพลังงานรัสเซีย/ยุโรปหนาวจัด

คณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือส่งวัสดุที่ใช้ในโครงการขีปนาวุธวิถีโค้งและอาวุธเคมีให้แก่ซีเรีย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทคนิค ซึ่งถือได้ว่า เกาหลีเหนือละเมิดมติกดดันทางเศรษฐกิจของสหประชาชาติ ทั้งพบว่า เกาหลีเหนือจัดส่งระบบขีปนาวุธวิถีโค้งต้องห้ามให้แก่เมียนมาด้วย ซึ่งจากการสอบสวนยังพบด้วยว่า มีเรือขนส่งสินค้าเดินทางไปซีเรียมากกว่า 40 ครั้งช่วงระหว่างปี 2555 ถึงปี 2560

ส่วนกรณีที่กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น แจ้งพบเครื่องบินตรวจการณ์ ตรวจพบเรือชอน มา ซาน ที่อยู่ในบัญชีรายชื่ออยู่ใกล้เรือบรรทุกน้ำมันซิน หยวน18 ที่ติดธงชาติมัลดีฟส์ ในบริเวณห่างจากนครเซี่ยงไฮ้ของจีนไปทางตะวันออกราว 250 กิโลเมตร ซึ่งญี่ปุ่นสงสัยว่า เรือสองลำกำลังถ่ายโอนสินค้า อย่างไรก็ตาม มัลดีฟส์ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธ

กลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่กองกำลังซีเรียและรัสเซียเริ่มต้นการโจมตีเขตกูตาตะวันออก ชานกรุงดามัสกัสซึ่งถูกกลุ่มกบฏยึดครองมาตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ รวมระยะเวลา 11 วันจนถึงวันพุธ มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 601 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 147 ราย แม้ว่าคณะมนตรีความมั่นคงฯ จะมีมติตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ ให้ทุกฝ่ายหยุดยิงทั่วประเทศเป็นเวลา 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา และรัสเซียเสนอการหยุดยิงวันละ 5 ชั่วโมง แต่ก็ยังพบว่ากองทัพรัสเซียและซีเรียยังคงโจมตีต่อเนื่อง

สำหรับกูตาตะวันออกเป็นฐานที่มั่นสำคัญแห่งสุดท้ายของกลุ่มกบฏใกล้เมืองหลวง โดยแหล่งข่าวด้านการทูตเผยว่า องค์การห้ามอาวุธเคมีได้เริ่มดำเนินการสืบสวนการโจมตีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ กรณีที่สหรัฐฯรายงานว่ากองกำลังซีเรียใช้ก๊าซคลอรีน

นอกจากนี้การสู้รบที่เต็มไปด้วยความรุนแรงทำให้ขบวนรถบรรทุกความช่วยเหลือไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ เนื่องจากกองทัพซีเรียไม่อนุญาต และยังไม่มีการอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่

บริษัทเอ็กซอนโมบิลซึ่งเป็นผู้ประกอบการด้านพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศเตรียมถอนตัวจากการร่วมทุนกับรอสต์เนฟ รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย ในโครงการในทะเลคารา เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการของรัฐบาลสหรัฐฯและสหภาพยุโรป หรือ อียู ที่ใช้กดดันทางเศรษฐกิจรัสเซียเมื่อปี 2557 สืบเนื่องจากการผนวกรวมดินแดนไครเมีย ซึ่งก่อนหน้านี้เอ็กซอนมีความเห็นคัดค้าน เพราะเห็นว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการสหรัฐฯ เพราะบริษัทต่างชาติยังสามารถเข้ามาลงทุนในประเทศได้

การเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายครอบครองอาวุธปืนในสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้สมาชิกสภาคองเกรสร่วมการหารือโดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลของสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ หรือเอ็นอาร์เอ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาคมที่มีอิทธิพลทางการเมืองมากที่สุด และยังเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงหาเสียงเสียงเลือกตั้ง โดยในร่างกฎหมายที่มีการหารือในเบื้องต้น ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอให้ขยายข้อบังคับการตรวจสอบประวัติผู้ซื้อ และกำหนดอายุขั้นต่ำจาก 18 ปีเป็น 21 ปี

ส่วนรัฐบาลออสเตรเลีย เปิดเผยข้อมูลว่ามีผู้ที่นำอาวุธผิดกฎหมายมาคืนจำนวน 57,000 กระบอก ในช่วงที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้ผู้ครอบครองอาวุธผิดกฎหมายสามารถปลดอาวุธตัวเองได้โดยไม่ถูกดำเนินคดีเป็นเวลา 3 เดือน โดยทางการออสเตรเลียระบุว่าทำให้สังคมปลอดภัยมากขึ้น

จากสภาพอากาศหนาวจัดในยุโรป ทำให้มีพายุหิมะและกระแสลมแรง ทำให้ท่าอากาศยานนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ประกาศระงับเที่ยวบินชั่วคราวทั้งขาเข้าและออก อุณหภูมิลดต่ำลงถึงติดลบ 40 องศาเซลเซียส

โดยประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรปยังมีอากาศหนาวจัดและหิมะตกหนักมีผู้เสียชีวิตแล้ว 48 ราย ตั้งแต่สหราชอาณาจักรไปจนถึงบอลข่าน บางพื้นที่อุณหภูมิลดลงไปถึงติดลบ 20 องศาเซลเซียส สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของฝรั่งเศส ออกประกาศเตือนภัยหิมะ น้ำแข็งและพายุลมแรงระดับสูงสุดในหลายพื้นที่ โดยจะมีหิมะตกหนักต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 2 มีนาคม

ส่วนที่แอลเบเนียมีรายงานหิมะหนักสะสมสูงถึง 1.1 เมตรในหลายพื้นที่รวมถึงที่กรุงติรานา ทำให้โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดการเรียนการสอน

อินเดียกลับมามีสถานะประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลกอีกครั้ง ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นสถิติที่ดีกว่าจีนเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปี เนื่องจากรัฐบาลอินเดียทุ่มงบประมาณรายจ่ายมากขึ้นในด้านการผลิตและบริการ โดยอินเดีย ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย โดยเศรษฐกิจเติบโตร้อยละ 7.2 ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ชนะจีนที่เศรษฐกิจเติบโตร้อยละ 6.8

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,608.98 จุดลดลง 420.22 จุด หรือร้อยละ 1.68

ดัชนีเอสแอนด์พีปิดที่ 2,677.67 จุด ลดลง 36.16 จุด หรือร้อยละ 1.33

ดัชนีแนสแดก ปิดที่ 7,180.56 จุด ลดลง 92.45 จุด หรือร้อยละ 1.27

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ในสัปดาห์ก่อน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 65 เซนต์ หรือร้อยละ 1.1 ปิดที่ 60.99 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 90 เซนต์ หรือร้อยละ 1.4 ปิดที่ 63.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

....