การชี้แจงข้อเท็จจริง หลังจากมีการแชร์ข้อความในโลกออนไลน์ ระบุว่า กรณีใบสั่งจากกล้องของตำรวจจราจรบนท้องถนน ระบุข้อความว่า” ศาลไม่อนุมัติให้ออกใบสั่งจากกล้องได้ และตำรวจก็ไม่สามารถเรียกค่าปรับได้ด้วย ไม่ต้องจ่าย” พ.ต.อ.เอกราช ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ชี้แจงกับจส.100เรื่องใบสั่งจากกล้องวงจรปิดว่า ถ้าใครได้รับมาต้องจ่ายเงิน จริงๆแล้ว พ.ร.บ.จราจรทั้งหมด ออกมาเพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ใช้ถนนอย่างปลอดภัย แต่บางคน อาจจะละเมิดไปบ้าง อาจจะมีการว่ากล่าวตักเตือนบ้าง ผู้ขับขี่ที่รับใบสั่ง ควรจะต้องมีความผิด เพื่อไม่ให้เกิดความผิดขึ้นมาอีก ไม่ว่าจะด้วยช่องทางไหน
ส่วนกรณีคลิปที่อ้างว่า พล.ต.ต.เอกราช เคยบรรยายให้ข้าราชการตำรวจทราบว่าไม่ต้องชำระเงิน ชี้แจงว่า เป็นกฎหมายฉบับเก่า ที่ยกเลิกไปแล้ว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งเรื่องไปทางกรมการขนส่งทางบกแล้ว ผู้ขับขี่ ก็ต้องชำระค่าปรับก่อน หรือจะตกลงกับกรมการขนส่งทางบกว่า จะออกใบการชำระภาษีชั่วคราวให้ 30 วัน แต่จะต้องชำระค่าปรับให้เรียบร้อย หรือว่าจะทำพร้อมกันในทันทีก็ได้ ในอนาคตถึงจะได้ป้ายวงกลมหน้ารถตัวจริง กฎหมายมอบอำนาจให้นายทะเบียนขนส่ง รับชำระค่าปรับที่ขนส่งแต่ละพื้นที่ได้เลย แต่ถ้าใครไม่ไปชำระค่าปรับ จะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรืออาจจะต้องเสียค่าปรับเพิ่มอีก 500 บาท อีก 1 กระทง ซึ่งกฎหมายจะกำหนดเพิ่มเติมเข้าไป สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำรูปแบบใบสั่งจราจรใหม่ หากคนที่ได้รับใบสั่งปฎิเสธว่าไม่ได้ทำผิด สามารถที่จะนำเอกสารมายืนยันได้ว่า ไม่ได้ขับรถ ณ. เวลานั้น ตำรวจก็สามารถออกใบสั่งจราจรให้ใหม่ได้ หรือ กรณีรถถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ใบสั่งจะถูกส่งไปยังรถที่แท้จริง เจ้าของที่แท้จริงที่ถูกสวมทะเบียน ก็สามารถแย้งตำรวจมาได้ ก็ไม่ต้องชำระค่าปรับ ส่วนกรณีที่สงสัยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดใบขับขี่ได้หรือไม่ รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ชี้แจงว่า การเรียกเก็บใบขับขี่ ตำรวจมีอำนาจเรียกเก็บได้ เพื่อออกใบแทนให้ ก็คือใบสั่งจราจร
CR:http://www.highwaypolice-sct.com/index.php/2017-03-22-10-27-16/4-uncategorised