ชาวปาปัวนิวกินี เดือดร้อนหนักหลังเกิดแผ่นดินไหว ขาดแคลนน้ำดื่ม ถนนเสียหาย

รอยเตอร์ รายงานอ้างโฆษกศูนย์ป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติของปาปัวนิวกินีว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 31 ศพหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.5 ในจังหวัดเซาเทิร์น ไฮแลนด์ พื้นที่เทือกเขาสูงทางภาคกลางของประเทศเมื่อวันจันทร์ คาดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ ยังมีถนนได้รับความเสียหาย รันเวย์ของสนามบินและเสาสัญญาณโทรศัพท์ เป็นอุปสรรคที่ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่สามารถจะลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายได้ครบทุกพื้นที่ และยังไม่สามารถลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ด้านนายเจมส์ จัสติน เจ้าหน้าที่แผนกวิจัย สังกัดกระทรวงปิโตรเลียมและพลังงานในกรุงพอร์ท มอเรสบี เพิ่มเติมว่า บ้านเรือนหลายแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับเทือกเขาสูงใกล้กับศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ถูกดินสไลด์ทับเสียหาย ทำให้มีคนเสียชีวิต อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายคือในเมืองเมนดี เมืองเอกของจังหวัดเซาเทิร์น ไฮแลนด์ และเมืองทารี ที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวราว 40 กิโลเมตร มีอาฟเตอร์ช็อคเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านต้องตั้งเต็นท์พักแรมในสนามหญ้าข้างบ้านหรือในที่โล่ง เนื่องจากหวั่นเกรงว่าบ้านเรือนอาจจะถล่มลงมา จากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว

ด้านนายมาร์ค เมนได เจ้าหน้าที่หน่วยงานพัฒนาชุมชนของเมืองทารี กล่าวว่า หน่วยงานท้องถิ่นหยุดผลิตน้ำประปาชั่วคราวในระยะนี้ ประชาชนขาดแคลนน้ำดื่ม เนื่องจากแม่น้ำทุกแห่งไม่สะอาดพอที่จะนำมาผลิตน้ำประปา นอกจากนั้นรันเวย์ของสนามบิน ถนนหนทางในเมืองทารี มีรอยปริและรอยแยก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดจราจรและกระทบต่อการลำเลียงสิ่งของไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบภัย

 ด้านรัฐบาลออสเตรเลีย ให้คำมั่นว่า จะนำผ้าใบสำหรับใช้ตั้งเต๊นท์พักแรม,ยาเม็ดฆ่าเชื้อโรคในน้ำ,ถังน้ำและส่งเครื่องบินรุ่นซี-130ของกองทัพอากาศออสเตรเลีย ไปช่วยสำรวจสภาพความเสียหายทางอากาศให้กับปาปัวนิวกินีด้วย

ทีมต่างประเทศ

CR:Reuters, http://www.businessinsider.com