สหรัฐฯและรัสเซีย ตำหนิซึ่งกันและกัน เรื่องทำผิดข้อตกลงหยุดยิงในซีเรีย

บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานว่า สหรัฐฯและชาติตะวันตกอื่นๆตำหนิรัฐบาลซีเรียว่า ยังคงทิ้งระเบิดโจมตีที่มั่นกบฏในเมืองกูตาตะวันออก อย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี)หลังการมีมติเมื่อวันเสาร์ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาขัดแย้งของซีเรียหยุดยิง 30 วัน

ก่อนหน้านี้ ยูเอ็นเอสซี เรียกประชุม 15 ประเทศสมาชิก หลังจากเมื่อวานนี้ รัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรีย โจมตีทางอากาศไปยังฐานที่มั่นกบฏในเมืองกูตาตะวันออก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ รัสเซีย พันธมิตรของซีเรีย ให้คำมั่นแก่ยูเอ็นเอสซีว่า รัฐบาลซีเรียจะหยุดโจมตีพื้นที่ดังกล่าววันละ 5 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่วันอังคาร

ขณะเดียวกัน ยูเอ็น,สหรัฐฯและประเทศตะวันตกอื่นๆวิจารณ์ซีเรียและรัสเซียในเรื่องนี้ โดยฝ่ายนักวิจารณ์กล่าวหาการโจมตีทางอากาศของซีเรียว่า ส่งผลกระทบต่อการลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปแจกให้กับประชาชนในพื้นที่ที่มีการสู้รบในซีเรีย

ด้านนางเคลลีย์ เคอร์รี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น กล่าวถึง เรื่องการหยุดยิงวันละ 5 ชั่วโมงตามข้อเสนอของรัสเซียว่าเป็นเรื่องที่น่าขบขันและเป็นการละเมิดมติยูเอ็น ที่มุ่งจะให้ทุกฝ่ายหยุดโจมตีกันในทุกรูปแบบตลอดระยะเวลาหยุดยิง 30 วัน นอกจากนี้ขอให้รัสเซีย กดดันซีเรียให้ทำตามมติของยูเอ็นอย่างเคร่งครัด แต่นายวัสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น ปกป้องเรื่องการโจมตีดังกล่าวว่ากองทัพซีเรีย มุ่งโจมตีเฉพาะกลุ่มผู้ก่อการร้าย การโจมตีดังกล่าวถือว่าเป็นมาตรการที่จำเป็นในการปราบปรามกลุ่มนุสราฟรอนท์ ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ซึ่งไม่ครอบคลุมอยู่ในข้อตกลงหยุดยิง

ทีมต่างประเทศ

CR:https://beastwatchnews.com, NHK