ประชาธิปัตย์ยื่นเรื่องตรวจสอบสัญญารถเมล์ NGV 489 คัน

28 กุมภาพันธ์ 2561, 11:21น.


การตรวจทุจริตกรณีการจัดซื้อรถเมล์ NGV ของขสมก. จำนวน 489 คัน 


นายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อร้องเรียนและต้องการให้ปราบปรามการส่อทุจริตกรณีการจัดซื้อรถเมล์ NGV. จำนวน 489 คัน วงเงิน 4,261 ล้านบาท พร้อมขอให้ตรวจสอบรายงาน การประชุมบอร์ด ขสมก. ว่ารายงานเท็จต่อนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โดยระบุว่าที่ประชุมบอร์ด ขสมก.มีมติเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2560 ให้ลงนามสัญญาจัดซื้อรถเมล์ NGV ทั้งที่มีผู้เข้าประชุมในวันนั้นเพียง 6 คน และ 4 คน ไม่เห็นด้วย อีกทั้งยังพบว่ามีราคาแพงขึ้นจาก 3,800 ล้านบาทเป็น 4,261 ล้านบาท ทั้งที่บริษัทเดิมเคยประมูลไว้ในราคา 3,800 ล้านบาท จึงอาจส่อว่ารัฐอาจเสียผลประโยชน์ นอกจากนี้การล็อคสเป็ค และพบการวิ่งเต้นกับนายทหารใหญ่บางคนใน คสช. จนทำให้ ขสมก. กล้าทำผิดกฎหมาย จึงอยากให้นายกรัฐมนตรี สั่งการให้นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ระงับการจ่ายเงิน 4,261 ล้านบาทจนกว่าจะมีการตรวจสอบว่ามติบอร์ดชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ รวมถึงให้สอบสวนข่าววิ่งเต้น และต้องการให้มีการเปิดประมูลใหม่ นอกจากนี้ นายวัชระ ยังได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบกรณีที่มีภาพถ่ายนายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนั่งหลับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าเป็นการผิดประมวลจริยธรรมหรือไม่และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนของชาติหรือไม่ด้วย


ขณะที่ ชมรมผู้ประกอบการรถยนต์นำเข้าอิสระ (Grey Market) นำโดยนายชัชรัฎ สุวรรณโนชิน ประธานชมรม เข้ายื่นหนังสื่อร้องเรียน  


โดยเรียกร้องให้ตรวจสอบนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ที่รไม่ยอมปล่อยรถยนต์ 4 ยี่ห้อดัง ได้แก่ปอร์เช่ มาเซราติ ลัมโบกินี่และ เฟอร์รารี่ ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง ตามคำสั่งกรมศุลกากร 317/2547  ซึ่งถือเป็นคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎกระทรวงการคลัง ถูกต้องตามกติกาขององค์กรการค้าโลก ที่ให้คิดราคาศุลกากรตามราคาแท้จริงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระเป็นอย่างมาก และซึ่งการที่รถยนต์มาถึงโกดังของศุลกากรในท่าเรือแหลมฉบังก่อน โดยไม่มีการแจ้งให้ผู้ทำธุรกิจรู้ล่วงหน้า และมีการออกคำสั่งเพิ่มในการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจได้รับความเสียหาย ต้องเสียภาษีสูงขึ้นจากการปรับค่าการตลาดที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง กลายเป็นความเสียหายของทางผู้บริโภคผู้ประกอบธุรกิจและรัฐบาลที่ไม่ได้เงินภาษีติดต่อกันเกินกว่า 5 เดือนแล้ว


ทั้งนี้ทางชมรมฯ ยังปฏิเสธด้วยว่าไม่เคยมีการส่งข้อความให้มีการลงขันกันให้ย้ายนายกุลิศ ออกจากตำแหน่งตามที่มีการกล่าวอ้าง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าบรรดาสมาชิกของชมรมฯ เสียภาษีให้รัฐบาลอย่างถูกต้องมากว่า 14 ปี ซึ่งสร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก จึงขอความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรีและสนับสนุนผู้ประกอบการที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง พร้อมขอให้ตรวจสอบอธิบดีกรมศุลกากร เพื่อหาทางช่วยเยียวยาให้แก่สมาชิกชมรมฯ ต่อไป


....


ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี 
ข่าวทั้งหมด

X