หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคดีล็อตเตอรี่ รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ที่ในวันนี้พรุ่งนี้ จะมีการแถลงความชัดเจนว่าเป็นของร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ หรือของนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังสี ว่า ขอให้รอฟังคำชี้แจงพร้อมกัน แต่เรื่องนี้สังคมไทยต้องมีการทบทวนได้แล้วว่าจะทำให้สังคมดีขึ้นได้อย่างไร ทุกคนต้องมีจิตสำนึก เพราะหากทุกคนมองแต่ผลประโยชน์ก็จะทำให้เกิดปัญหาไปหมด พร้อมระบุด้วยว่า ขอให้เรียกว่าล็อตเตอรี่ ไม่ใช่หวย เพราะหวยเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ขณะเดียวกันขอสังคมอย่าตัดสินคนอื่น โดยให้รอกระบวนการยุติธรรม ซึ่งบทเรียนครั้งนี้ไม่ใช่บทเรียนของรัฐบาล แต่เป็นบทเรียนของทุกคนในสังคมว่าอย่าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งเรื่องดังกล่าวยอมรับว่ามีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ขออย่าเหมารวมกันทุกเรื่อง
ส่วนการตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้สอบถามไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งได้รับคำตอบว่าโครงการต่างๆมีมานานแล้ว โดยจะมีการมอบเงินเป็นรายบุคคลหรือกลุ่มคนที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ และพบว่า มีคนรวมตัวเป็นกลุ่มมาแสวงหาผลประโยชน์มาเบิกเงินออกไปทำให้คนที่สมควรได้รับเงินไม่ได้รับ ซึ่งมองเป็นเรื่องขบวนการภายใน จึงได้สั่งการให้ลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาดทั้งทางวินัยและทางอาญา พร้อมกันนี้ ได้สั่งย้ายปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้ามาปฏิบัติงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี ระหว่างการตรวจสอบด้วย แต่หากตรวจสอบ พบว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องก็สามารถกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีการดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก และถูกตั้งข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการฟ้องร้องอยู่แล้ว ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนที่อัยการสั่งฟ้อง และต่อสู้กันในชั้นศาล ส่วนตัวขออย่าด่วนตัดสินว่าใครถูกใครผิด เพราะเรื่องของกฎหมายไม่สามารถไปคาดการณ์ล่วงหน้าได้ และขออย่านำคดีต่าง ๆ ไปเปรียบเทียบกัน หรือกล่าวว่าคนรวยจะต้องไม่ติดคุก ทั้งนี้ ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และตนเองได้กำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปแล้วว่าจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตรงตามข้อเท็จจริง และรัฐบาลก็ทำเช่นนี้กับทุกเรื่องไม่ใช่เพียงเรื่องเดียว พร้อมระบุด้วยว่า เหลือเพียงสิ่งเดียวคือให้ตัวเองเป็นอัยการ ฟ้องร้องเอง เป็นตำรวจเองและทำสำนวนเอง เพราะทุกคนต่างคาดหวังกับตัวเองในทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี