พิพากษายืนสุเทพ/บวกจำคุกพงศ์พัฒน์อีก1เดือนคดีปกปิดบัญชี/ประท้วงแกมเบียบอกตะวันตกมาไทยเพราะเซ็กซ์ทัวร์

27 กุมภาพันธ์ 2561, 12:39น.


ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อายุ 69 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเอง หรือผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองใด หรือให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 กรณีเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2554 นอกจากนี้ยังกล่าวพาดพิง นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนพ.เหวง โตจิราการ ผู้เสียหาย คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเนื่องจากเป็นคำกล่าวไปตามรายงานการสอบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แต่อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์



เมื่อมาถึงศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น คำเบิกความ และพยานหลักฐานจำเลยมีน้ำหนักมั่นคง แสดงความเห็นทางการเมืองโดยสุจริต ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องมานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน



ส่วนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุก 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา พลตำรวจโทหรือนายพงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อายุ 64 ปี อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) จงใจแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จรวม 59 รายการ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถูกฟ้องและพิพากษาคดีอาญา รวม 7 สำนวนเมื่อปี 2558 ในความผิดฐาน หมิ่นเบื้องสูง, คดีเรียกรับสินบนแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในบช.ก., คดีเรียกรับสินบนน้ำมันเถื่อน, คดีลักลอบเปิดบ่อนการพนัน, คดีร่วมกันฟอกเงิน, คดีป่าไม้ , คดีครอบครองโบราณวัตถุ และคดีรับของโจร รวมจำคุกทั้งสิ้น 36 ปี 3 เดือน



กรณีนายฮามัท บาห์ รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวของแกมเบีย กล่าวแสดงความเห็นในลักษณะที่ว่าไทยคือเป้าหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวตะวันตกด้านเซ็กส์  นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระะทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือประท้วงไปแล้ว และคิดว่ากระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่ได้เหมาะสมแล้ว และกล่าวว่า ปัจจุบันการท่องเที่ยวของประเทศไทยเปลี่ยนไปเป็นการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น



กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐจะจัดการประชุมนานาชาติครั้งใหญ่ กรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อยกระดับการบังคับใช้กฎหมายที่จะใช้ต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส โดยได้รับความร่วมมือจากตำรวจสากล และสถาบันเพื่อความยุติธรรมและกฏหมายสากล เพื่อร่วมกันทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาที่ลึกซึ้งและซับซ้อนของกลุ่มไอเอสที่คุกคามทั่วโลก



กรณี น.ส.สุกัญญา เบาเนิด ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา แจ้งความให้เอาผิดกับกลุ่มบุคคลชาย 3 คนหญิง 2 คน ที่ปีนขึ้นไปถ่ายภาพบนโบราณสถานของวัดมหาธาตุ ทั้งที่มีป้ายประกาศเตือนติดไว้อย่างชัดเจน เมื่อวานนี้ (26 ก.พ.61/18.00 น.) ทั้งหมดได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับทางพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยาแล้ว โดยทั้งหมดมีอายุระหว่าง 27-34 ปีและเป็นชาวกทม. ยอมรับว่าไปเที่ยวที่พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 28 มกราคม ปีนขึ้นไปถ่ายรูปบนพระปรางค์จริง แต่ก็ลงมาเมื่อมีมัคคุเทศน์ผ่านมาพบและเตือนให้ลงมา ต่อมารู้สึกว่ามันไม่ดีจึงโพสต์ภาพลงโซเชียลพร้อมข้อความ “#มุมที่คุณไม่เคยเห็น #เพราะเค้าห้ามปืนขึ้นไป #โยเดีย #แก๊งค์คนบาป2018" สารภาพว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ พร้อมกล่าวขอโทษต่อสังคม และพร้อมจะไปขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดมหาธาตุ จากนั้นตำรวจปล่อยตัวชั่วคราว และนัดส่งฟ้องศาลวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้



 ...

ข่าวทั้งหมด

X