กรมชลฯ สำรองน้ำถึงสิ้นเดือนก.ค./หุ้นไทยปิดพุ่งกว่า26จุด/นักลงทุน รอฟังการแถลงของประธานเฟด

+++นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำ จาก 10 หน่วยงาน ว่า สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) ได้ประเมินสภาพฝนปีนี้ว่ามีปริมาณฝนเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ปกติ ใกล้เคียงปี 2528 ช่วงแล้งจะน้อย จะเข้าสู่ฤดูฝนเดือนพ.ค.และมีฝนทิ้งช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. โดยในเขตชลประทานมีน้ำเพียงพอไม่ขาดแคลน และสำรองน้ำไว้ถึงสิ้นเดือนก.ค.

+++สำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทาน ยังน่าห่วง ซึ่งนายกรัฐมนตรี รองนายกฯและรมว.เกษตรฯ สั่งการเตรียมพร้อมกระจายเครื่องสูบน้ำพื้นที่ต่าง ๆ 2.3 พันเครื่อง ไปช่วยเหลือทันทีในพื้นที่ที่ประชาชนร้องขอ และดูแหล่งน้ำใกล้เคียง เพิ่มน้ำไปเติมให้พื้นที่เสี่ยง รวมทั้งฝนหลวง จะเปิดปฏิบัติการทำฝนหลวงทั่วประเทศวันที่ 1 มี.ค.

+++การทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย และผู้ติดเชื้อเอดส์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ก็เร่งตรวจสอบการทุจริตซึ่งไม่ใช่มีแค่เฉพาะที่จังหวัดขอนแก่นเท่านั้น แต่มีการทุจริตในรูปแบบต่าง ๆ กระจายออกไปอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ภาครัฐมีมาตรการในการคุ้มครองนักศึกษาฝึกงาน ที่ออกมาเปิดโปงการทุจริตครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน ไม่ควรปล่อยให้โดดเดี่ยวไปตามลำพัง แต่ควรมีมาตรการและกลไกต่าง ๆ ในการคุ้มครอง รวมทั้งคุ้มครองพยานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย จึงขอฝากนายกรัฐมนตรีให้ช่วยดูแลนักศึกษาฝึกงานที่ออกมาเปิดโปงการทุจริต ไม่ให้ถูกรังแก ข่มขู่ และคุกคาม ขณะเดียวกันควรให้กำลังใจ ส่งเสริมสนับสนุน เช่น อาจจัดตั้งกองทุนเพื่อศึกษาต่อ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำความดี และถือเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่จะกล้าต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น

+++ขณะที่ วันนี้ พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เปิดเผยว่า หลังมีการอนุมัติไต่สวนข้อเท็จจริง 2 จังหวัด คือ เชียงใหม่และขอนแก่น จากนั้นได้ขยายผลตรวจสอบเพิ่มเติมกว่า 20 จังหวัด ขณะนี้พบจังหวัดที่เข้าข่ายการทุจริตอีกหลายจังหวัด เช่น บึงกาฬ สระบุรี อุดรธานี อยุธยา น่าน กระบี่ ตราด ตรัง สุราษฎ์ธานี ซึ่งจะพยายามทำให้เสร็จสิ้นภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด

+++ความเคลื่อนไหวทางการเมืองนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การสรรหาว่าที่ กกต.ที่หลายคนยังคงกังวล เกี่ยวกับสเปคเทพ จะทำให้เกิดปัญหาความล่าช้าหรือไม่ ว่า สเปคเทพ เป็นสิ่งที่พูดกันไปเอง เพราะคุณสมบัติของ กกต.ก็เหมือนกับคุณสมบัติขององค์กรอิสระอื่น ๆ เมื่อถามว่า กกต.รักษาการ สามารถจัดการเลือกตั้งใหญ่ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ แต่สิ่งที่กังวล คือ กกต.เก่า กลัวจะเกิดการเปลี่ยนม้ากลางแม่น้ำ เกรงว่ากำลังจัดการเลือกตั้ง แล้วได้ กกต.ใหม่เข้ามา กกต.เก่าก็ต้องออก ส่วนคนใหม่จะพะวักพะวง ขณะที่คนเก่าก็กลัวที่จะถูกฟ้อง แต่ยืนยันว่า กกต.เก่าทำได้ ทั้งการเลือกตั้งท้องถิ่นและเลือกตั้งใหญ่

+++กรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประกาศสมัครเป็นเลขาธิการ กกต. โดยไม่ลาออกจากตำแหน่งกรรมการการเลือก นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถทำได้ เพราะจะสามารถลาออกจากตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง หลังจากที่ได้ตำแหน่งเลขาธิการ กกต.แล้วก็ได้ภายใน 15 วัน  หากนายสมชัยได้เป็นเลขาธิการ กกต.แล้วลาออกจากกรรมการการเลือกตั้ง จะมีการตั้งคนใหม่มาแทนได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า กกต.ที่มีอยู่ บางเรื่องจะทำงานได้ แต่บางเรื่องจะกระทบกับความเชื่อมั่น เมื่อถึงเวลาจะมีคำตอบเอง ส่วนจะทำอย่างไร มีวิธี แต่ยังไม่ขอบอกในเวลานี้ ขอย้ำว่าไม่กระทบอะไรทั้งสิ้น ไม่กระทบต่อโรดแมปใหญ่

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายที่1,834.18 จุด เพิ่มขึ้น 26.12 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 72,191.36 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้คึกคักมาก ดัชนีกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้น ดัชนี สามารถทะลุแนวต้าน 1,820 จุด ขึ้นไปได้ จากแรงหนุนของหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ และหุ้น ปตท.และมีการเล่นเก็งกำไรเป็นรอบ ๆ ตามผลประกอบการของ บจ.นักลงทุนรอฟังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่จะแถลงต่อสภาคองเกรส วันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ คาดว่าจะเป็นลักษณะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีฮั่งเส่ง ฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากที่ได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ  ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 231.43 จุด ปิดที่ 31,498.60 จุด

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาประธานเฟด กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐฯ รวมทั้งทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้

+++ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 260.85 จุด  ปิดที่ 22,153.63 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ปีนี้



+++บีบีซี รายงานอ้างนายเชน โอนีลล์ ผู้กำกับการตำรวจเมืองเลสเตอร์ซิตี้ อังกฤษว่ามีคนเสียชีวิต 4 ศพและบาดเจ็บ 4 คน ในจำนวนนี้หนึ่งคนอาการสาหัส หลังเกิดเหตุระเบิดที่ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งบนถนนฮิงคลีย์ เมื่อเวลา 19.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวานนี้ ทำให้เกิดไฟลุกไหม้และมีควันลอยขึ้นจากอาคารเกิดเหตุ เบื้องต้น ตำรวจยังไม่ทราบสาเหตุของเหตุระเบิด ภารกิจเร่งด่วนตอนนี้คือการช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัยโดยเร็ว ตำรวจสันนิษฐานว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้าย สำหรับร้านค้าดังกล่าวเป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นร้านค้า ส่วนชั้นบนเป็นห้องพักอาศัย เหตุระเบิดดังกล่าวส่งผลให้ไฟฟ้าดับ กระทบบ้านเรือนในละแวกใกล้เคียงและการจราจรในบริเวณจุดเกิดเหตุ เนื่องจาก ตำรวจปิดกั้นจราจรบริเวณใกล้ร้านค้าดังกล่าว ด้านนายแมตต์ เคน หัวหน้าเจ้าหน้าที่แผนกดับเพลิงและกู้ภัยของเมืองเลสเตอร์ซิตี้ ระบุว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจจะติดอยู่ภายในอาคาร

+++เอเอฟพี รายงานว่านักเรียนโรงเรียนมัธยมมาจอริตี้ สโตนแมน ดั๊กลาสในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯกลับเข้าชั้นเรียนเป็นครั้งแรกเมื่อวาน ตั้งแต่เกิดเหตุอดีตนักเรียนที่ถูกไล่ออกคนหนึ่งรู้สึกคับแค้นใจ บุกเข้าไปก่อเหตุกราดยิงคนในโรงเรียนเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ มีคนเสียชีวิต 17 ศพ

+++คณะผู้บริหารโรงเรียนจัดกิจกรรมปฐมนิเทศเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมนี้แบบสมัครใจ บรรยากาศดำเนินไปอย่างเศร้าสลด พวกเขาต่างปลอบโยนซึ่งกันและกัน และเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคือสมาชิกสภาคองเกรส ให้ร่วมกันหาทางยุติปัญหาเหตุรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนให้สำเร็จโดยเร็ว

+++คณะผู้บริหารของโรงเรียน หวังว่า การปฐมนิเทศครั้งนี้จะช่วยให้บรรดานักเรียน คณะครูและเจ้าหน้าที่ของเรียนที่รอดชีวิต สามารถปรับตัวปรับใจยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสามารถจะข้ามพ้นปัญหานี้และเดินต่อไปได้ โดยคณะครูและเจ้าหน้าที่จะเริ่มกลับมาทำงานวันแรกในวันนี้ และเริ่มเปิดเรียนตามปกติในวันพุธนี้

+++ผลการสำรวจของซีเอ็นเอ็นที่ทำการสำรวจหนึ่งสัปดาห์หลังเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนรัฐฟลอริดา แสดงให้เห็นว่าร้อยละ 70 ของกลุ่มประชาชนที่ตอบแบบสัมภาษณ์ กล่าวว่า พวกเขาต้องการให้มีกฏหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดมากขึ้น เพิ่มจากร้อยละ 52 ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน ร้อยละ 57 เห็นด้วยกับเรื่องการห้ามซื้อขายปืนประเภทกึ่งอัตโนมัติ เพิ่มจากร้อยละ 49 โดยเฉลี่ยมีคนเสียชีวิตจากเหตุรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนกว่า 3 หมื่นศพในสหรัฐฯในแต่ละปี

แฟ้มภาพ