กรณีนางสาวพิริยา สมมูล อายุ 25 ปี ถูกขโมยข้อมูลบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อรับโอนเงินจากผู้เสียหายซึ่งถูกกลุ่มโรแมนซ์สแกมหลอกหลวง มูลค่าความเสียหาย 2,330,600 ล้านบาท ทำให้ถูกเนินคดีใน 8 ท้องที่ มานานกว่า 2 ปี พลตำรวจเอกธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่า นางสาวพิริยา ถูกคนร้ายขโมยบัตรประชาชน ไปเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2559 บริเวณถนนวอล์คกิ้งสตรีท พัทยา จังหวัดชลบุรี และนำบัตรไปเปิดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวน 5 บัญชี กระทั่งรวบรวมหลักฐานพบว่าคนร้ายที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ มี 4 ราย คือ นางสาวปวีณา สิงหวิบูลย์, นางสาวเจรติ สายสิน, Mr.Simon Eko Ayuk และ Mr.Rasheed Olalekan Yusuf ชาวไนจีเรีย โดยพนักงานสอบสวนออกหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และยังพบว่าผู้ต้องหา 3 ใน 4 คน เป็นกลุ่มคนร้ายชุดเดียวกับคดีของ นางสาวณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ซึ่งได้ถูกจับกุมและคุมขังอยู่ในเรือนจำ ส่วนผู้ต้องหารายที่ 4 อยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจจะเยียวยาช่วยเหลือ นางสาวพิริยา ในเรื่องคดีความทางอาญา ที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด ให้ได้รับความเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด ส่วนการฟ้องร้องทางแพ่งขึ้นอยู่กับนางสาวพิริยา ในการพิจารณาดำเนินการกับสถาบันการเงินอีกครั้ง อีกทั้งเห็นว่าธนาคารต่างๆ ต้องเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยมากขึ้น และควรมีการตรวจสอบข้อมูลผู้นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคารอย่างเข้มงวด
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังแถลงผลการจับกุมนายซีวานยานา เฮเนรี สัญชาติอูกันดา และนางสาวชัญญาพิชญ์ วิศรี อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มหลอกลวงผู้เสียหายผ่านแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก โดยการแชทข้อความแสดงตนเป็นบุคคลอื่น จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ก่อนตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างๆ โดยจะมีการขยายผลต่อไป
...
ผสข.ปภาดา พูลสุข