แฟทเอฟจะขึ้นบัญชีปากีสถานอยู่บัญชีจับตามองให้เงินทุนสนับสนุนการก่อการร้ายอีกครั้ง

คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน หรือ แฟทเอฟ (FATF) ตัดสินใจขึ้นบัญชีปากีสถานอยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องเฝ้าจับตามองการให้เงินทุนสนับสนุนการก่อการร้ายอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลปากีสถานเปิดเผยว่า การขึ้นบัญชีปากีสถานจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในการประชุม “แฟทเอฟ” ครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายน เพื่อกดดันให้ปากีสถานตัดสายสัมพันธ์กับกลุ่มติดอาวุธ นักวิเคราะห์คาดว่า การขึ้นบัญชีไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับปากีสถาน หลังจากสหรัฐฯ เพิ่งระงับความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ปากีสถานไปเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากล้มเหลวในการปราบปรามกลุ่มตอลิบัน ซึ่งต่อสู้กับกองกำลังสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน แต่ยังมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การธนาคาร และการลงทุนจากต่างประเทศ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ปากีสถานเปิดเผยว่า การถอดรายชื่อปากีสถานเป็นเวลา 3 ปีก่อนหน้านี้ได้ทำให้ปากีสถานมีเวลาฟื้นฟูเศรษฐกิจ และระดมเงินเข้าไปในตลาดพันธบัตรระหว่างประเทส ดังนั้น ผลกระทบต่อเศรษฐกิจคงไม่รุนแรงตามคาด

นางอลิซ เวลส์ รักษาการผู้ช่วย รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวถึงเหตุผลในการล็อบบี้ประเทศสมาชิกแฟทเอฟให้ขึ้นบัญชีปากีสถานอีกครั้งส่วนหนึ่งเป็นเพราะปากีสถานยังไม่มีความพยายามอย่างเพียงพอในการปราบปรามการสนับสนุนเงินทุนกลุ่มก่อการร้าย ปล่อยตัวนายฮาฟิซ ซาอีด ผู้นำกลุ่ม “จามัท อุด ดาวา” เป็นครั้งที่ 6 ทั้งที่กลุ่มของนายซาอีดเป็นองค์กรการกุศลบังหน้าให้แก่กลุ่มติดอาวุธ “ลัชคาร์-อี-ไตบา” ซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 166 คน เมื่อปี 2551 นอกจากนี้ ปากีสถานยังปล่อยให้เครือข่ายย่อยของกลุ่ม “ลัชคาร์-อี-ไตบา” ปฏิบัติการได้อย่างอิสระ เช่น ระดมเงินทุนแม้แต่บริเวณหน้าสถานีตำรวจ

แม้ปากีสถานจะพยายามในนาทีสุดท้าย เช่น การแก้ไขกฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย และการยึดองค์กรการกุศลที่มีความเชื่อมโยงกับนายซาอีด แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนีก็ยังสนับสนุนสหรัฐฯ มีเพียงจีน ตุรกี และคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ หรือ GCC แสดงท่าทีคัดค้านเมื่อต้นสัปดาห์ แต่ล่าช้า อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวรัฐบาลเปิดเผยว่า ปากีสถานยังมีเวลา 3 เดือนในการแก้ไขประเด็นอื่นๆ และเจรจากับประธานร่วมแฟทเอฟจากอิตาลีและสหรัฐฯ เกี่ยวกับแนวทางจำเป็นในการแก้ไขปัญหาก่อนหน้าการประชุมแฟทเอฟครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายน

....

(1350 F171)