กระบวนการสรรหาบุคคลที่ควรได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ชุดใหม่ หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติไม่เห็นชอบบุคคลทั้ง 7 คนที่คณะกรรมการสรรหาเสนอชื่อให้เป็นกรรมการกกต.ชุดใหม่
นาย สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการกกต. เปิดเผยว่า ประธานสนช.ต้องทำหนังสือส่งประธานศาลฎีกา เพื่อจัดประชุมคัดเลือกผู้ควรเป็นกรรมการ กกต. 2 คน และคณะกรรมการสรรหาต้องหามาให้ได้อีก 5 คน รวม 7 คนเหมือนเดิมภายในเวลา 90 วันนับจาก เมื่อได้ชื่อแล้วต้องส่งให้ สนช. ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และจริยธรรม ขั้นตอนนี้มีเวลา 45 วัน รวมแล้ว 4 เดือนครึ่ง ถ้าสนช.เห็นชอบ กกต.ชุดใหม่ก็ต้องลาออกจากตำแหน่งต่างๆ ที่ดำรงอยู่และยื่นเอกสารแสดงต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ต้องจัดประชุมคัดเลือกประธานกกต. และนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งกระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ1 เดือนถึงเดือนครึ่ง เบ็ดเสร็จแล้วอย่างเร็วที่สุดคือ อีกอย่างน้อยครึ่งปี หรือเดือนสิงหาคมจะได้ชื่อ กกต.ชุดใหม่ แต่ยืนยันว่าการได้หรือไม่ได้กกต.ชุดใหม่ ไม่มีผลต่อกำหนดเลือกตั้ง เพราะชุดปัจจุบันยังทำงานได้อยู่ และจะทำต่อไปเรื่อยๆ โดยวันอังคารนี้จะประชุมกกต.เพื่อกำหนดกรอบการทำงานใหม่ รวมถึงพิจารณาการเลือกผู้ตรวจการการเลือกตั้ง, หัวหน้าหน่วยราชการ เป็นต้น แต่เป็นห่วงว่าถ้ากกต.ชุดใหม่มาช้า จะส่งผลให้กกต.ชุดใหม่มีปัญหาเอง เพราะเวลาเรียนรู้งานมีน้อยลง และยิ่งถ้ามาใกล้กับช่วงที่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นหรือเลือกตั้งทั่วไป อาจเกิดปัญหาตามมา นาย สมชัย ระบุด้วยว่า ปัญหาทุกอย่างนี้จะไม่เกิด ถ้าไม่มีการสั่งเซ็ทซีโร่กกต.ชุดปัจจุบัน ด้วยข้อหาว่าเป็นปลาสองน้ำและอยากได้คนมีประสบการณ์มาทำแทน ซึ่งความท้าทายใหญ่อยู่ที่การสรรหากกต.ชุดใหม่และการทำงานของกกต.ชุดใหม่ที่จะมีความลำบากแน่
ส่วนจะจัดเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อไรนั้น ไม่ได้เป็นอำนาจของกกต. เพราะต้องรอคำสั่งปลดล็อคของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งตอนนี้ท้องถิ่นทุกที่หมดวาระมาหลายปีแล้ว สำหรับการออกกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นมีทั้งสิ้น 6 ฉบับ กกต.ออกเอง 1 ฉบับ ที่เหลือกรมปกครองท้องถิ่นเป็นผู้จัดการ คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสนช.ได้ต้นเดือนเมษายน จากนั้น 2 เดือนน่าจะผ่านสนช.ออกมาเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่เกินปลายเดือนมิถุนายน ซึ่งเมื่อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นประกาศใช้ กกต.ก็พร้อมจัดเลือกตั้งภายใน 45 วัน หรือประมาณกลางสิงหาคม ท้องถิ่นบางแห่งน่าจะเลือกตั้งได้ แม้จะไม่ทั้งหมด ซึ่งการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นรวมถึงการเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครด้วย แต่ปัจจัยสำคัญคือต้องให้คสช.ปลดล็อคและอยากให้มีการเลือกตั้งด้วย ส่วนการดูแลการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น ขณะนี้ไม่มีกกต.จังหวัดดูแลแล้ว เพราะพ้นไปตามร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 กกต.จึงอาจมอบให้กระทรวงกลาโหมหรือกระทรวงมหาดไทยช่วย และถ้าถึงเวลานั้นยังไม่มีกกต.ชุดใหม่ ชุดนี้ก็จะเป็นคนจัดการเลือกตั้งได้ แต่หากลากการเลือกตั้งท้องถิ่นให้นานออกไป ก็เสี่ยงที่จะกระทบกับการเลือกตั้งทั่วไปด้วย
นาย สมชัย ระบุด้วยว่า กกต.ชุดนี้ แม้จะตั้งใจทำหน้าที่ แต่ก็มีความกังวลว่าปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใกล้เลือกตั้งอาจทำให้ถูกฟ้องร้องขึ้นได้ และเป็นเรื่องไม่สนุก เพราะคดีจะติดตัวในนามบุคคล ที่แม้จะพ้นจากหน้าที่ไปแล้ว แต่ถ้าคดีไม่จบก็ต้องไปขึ้นศาลซึ่งเป็นเรื่องไม่จำเป็น ดังนั้นวันจันทร์นี้เวลา 14.00น. จะชี้แจงถึงอนาคตของตัวเองในกกต.ด้วย
ส่วนกรณีการตรวจสอบการถือหุ้นของนายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กำลังอยู่ระหว่างพิจารณา คาดได้ข้อสรุปใน 2 เดือนนี้ โดยกกต.ชุดนี้จะเป็นผู้วินิจฉัย
...