กรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ตีตกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ทั้ง 7 คน
นาย สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า สนช.ควรชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่เห็นชอบบุคคลทั้ง 7 ซึ่งแม้ว่าจะยอมรับเป็นไปไม่ได้เพราะเป็นการลงคะแนนลับ แต่อย่างน้อยคณะกรรมการสรรหาควรรู้สาเหตุเพื่อหาทางแก้ไข ไม่เช่นนั้นการสรรหารอบใหม่ก็จะเกิดปัญหาเหมือนเดิม ส่วนที่มีการแสดงความเห็นว่าเป็นใบสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เชื่อว่าคงไม่ใช่ เพราะคะแนนที่ออกมามีความกระจายออกไป และจะโทษบุคคลทั้ง 7 คน หรือคณะกรรมการสรรหาก็ไม่ได้ เพราะทุกฝ่ายทำเต็มที่ตามที่กฎหมายกำหนด เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน หากถ้าจะโทษต้องโทษผู้กำหนดกติกา ที่นอกจากจะกำหนดเรื่องวิธีการลงคะแนนอย่างไม่เหมาะสมแล้ว ยังกำหนดเกณฑ์คัดเลือก และผู้ที่ควรได้รับเลือก อย่างเข้มงวดมากเกินไป จนกลายเป็นการตัดคนทำงานเป็นแต่ไม่ถึงเกณฑ์ออกไป เช่น ทหาร, อธิบดี ที่ต้องดำรงตำแหน่งอย่างน้อย 5 ปี ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะมีผู้ใดดำรงตำแหน่งได้นานเช่นนี้ ตรงกันข้ามผู้เขียนกติกากลับวางเกณฑ์ให้ผู้ประกอบอิสระที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเมืองและการเลือกตั้งมาสมัครเป็นคณะกรรมการสรรหากกต.และผู้ที่ควรได้รับการเลือกเป็นกรรมการกกต.
นาย สมชัย ยังระบุว่า การกำหนดคุณสมบัติที่เคร่งครัดเกินไปและลำบากเช่นนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาในการสรรหาบุคคลที่เหมาะต่อการเป็นกกต. และตอนนี้ก็ไม่สามารถแก้เกณฑ์การคัดเลือกผู้สมัครเป็นกรรมการกกต. เพราะถ้าจะแก้ก็ต้องไปแก้ไขกฎหมาย ซึ่งจะทำให้เรื่องยุ่งยากและใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิม ขณะนี้จึงทำได้เพียงประคับประคองและให้กำลังใจคณะกรรมการสรรหาหาฯ ขณะเดียวกันศาลฎีกาต้องนำบทเรียนนี้ไปพิจารณาและหาทางแก้ว่าจะทำอย่างไรให้การลงคะแนนเป็นไปอย่างเปิดเผยอย่างแท้จริง ซึ่งถ้ากระบวนการยังเป็นไปตามเดิม ก็คาดว่าการสรรหารอบใหม่นี้จะลำบากไม่ต่างจากรอบที่ผ่านมาแน่นอน
...
ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร