จีนยกระดับการป้องกันทางอากาศ หลังเกิดปัญหาชายแดนพิพาทกับอินเดีย

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่าหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ของทางการจีน รายงานอ้างเว็บไซต์ภาคภาษาอังกฤษของกองทัพจีนว่า นายจงผิง ซง ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของจีน นายกันติ ประสาด บัจไพ ผอ.ศูนย์เอเชียและโลกาภิวัฒน์ สถาบันนโยบายสาธารณะลี กวน ยูของสิงคโปร์ และพล.อ.อ.เอ็ม มาเธสวารัน อดีตนายทหารของกองทัพอากาศอินเดียที่เคยทำหน้าที่ผู้บังคับการหน่วยทหารในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย มีความเห็นตรงกันว่า ความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนระหว่างประเทศจีนกับอินเดียอาจจะปะทุขึ้นอีกครั้งในอนาคต หลังสื่อของทางการจีน รายงานเจาะลึกเรื่องการยกระดับสมรรถนะด้านการป้องกันทางอากาศของจีน โดยเฉพาะในบริเวณใกล้ชายแดนที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ในพื้นที่เทือกเขาสูงทางภาคตะวันตกของประเทศจีน เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นจากอินเดีย

ก่อนหน้านี้ กองทัพอากาศจีน ได้โพสต์บทความทางเว็บไซต์ของกองทัพฯ พร้อมภาพข่าวเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์หรือ 2 วันก่อนวันตรุษจีน แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินรบรุ่นเจ-10 และรุ่นเจ-11 จำนวนหลายลำของกองทัพอากาศจีน ได้ซ้อมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในพื้นที่นั้น

ด้านนายจงผิง ซง ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าอินเดียได้สั่งซื้อเครื่องบินรบรุ่นใหม่ๆ ขณะเดียวกัน กองทัพจีน ยกระดับความสามารถของเครื่องบินรบในพื้นที่ทางภาคตะวันตกของประเทศอย่างต่อเนื่องเช่นกัน การแถลงข่าวนี้ของกองทัพจีน นับว่าเป็นสัญญาณที่สำคัญหลังเกิดเหตุเผชิญหน้าทางทหารหลังมีปัญหาชายแดนพิพาทระหว่างสองประเทศบริเวณที่ราบสูงดอกลัม หรือ ต้งหล่าง ในภาษาจีน ใกล้ชายแดนอินเดีย จีนและภูฏานเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว

ด้านผู้อำนวยการศูนย์เอเชียและโลกาภิวัฒน์ของสิงคโปร์ ตั้งข้อสังเกตว่า การที่กองทัพจีนโพสต์บทความนี้อาจจะแปลความหมายว่าจีนส่งสัญญาณถึงอินเดียว่า ปัญหาชายแดนพิพาทบริเวณที่ราบสูงดอกลัม จะยังไม่สิ้นสุดลงและอินเดียไม่ควรวางใจว่าปัญหานี้คลี่คลายลงแล้ว ที่สำคัญคือกองทัพจีน ส่งสัญญาณถึงอินเดียว่า จีนมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้จนถึงที่สุด แม้ว่าจะต้องใช้กำลังทหารก็ตาม

ทีมต่างประเทศ

CR:www.ktvz.com ,CNN