ลูกชายคนโตของทรัมป์ เผยการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ของพ่อทำให้ธุรกิจครอบครัวสูญเสียรายได้

เอเอฟพี รายงานว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไทม์ออฟอินเดีย ระหว่างการเยือนกรุงเดลี อินเดีย ในช่วงนี้ว่าการเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ธุรกิจของครอบครัวคือ เดอะทรัมป์ ออร์แกไนเซชั่น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ สูญเสียรายได้หลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมทั้งระบุว่า เดอะทรัมป์ ออร์แกไนเซชั่น พลาดโอกาสในการทำข้อตกลงทางธุรกิจใหม่ๆทั่วโลก เนื่องจาก การที่นายทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

นายทรัมป์ จูเนียร์ อยู่ระหว่างการเยือนอินเดีย เพื่อส่งเสริมการขายของโครงการอพาร์ทเมนท์หรูของเดอะทรัมป์ ออร์แกไนเซชั่นในเมืองคุร์เคาน์ ชานกรุงเดลี ซึ่งมีการทำตลาดโดยใช้ชื่อของบิดา เป็นอาคารสูง 47 ชั้น ที่จัดสร้างเป็นอพาร์ทเมนท์หรู 250 ห้อง คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2566 มีราคาระหว่าง 55-110 ล้านรูปี หรือ 850,000-1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อห้อง

ด้านผู้ก่อสร้างชาวอินเดีย เปิดเผยว่า มีลูกค้าจองซื้ออพาร์ทเมนท์ในโครงการนี้แล้วเกือบ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สำคัญคือ ในวันศุกร์นี้ นายทรัมป์ จูเนียร์ จะร่วมรับประทานอาหารค่ำกับกลุ่มนักธุรกิจอินเดียที่ซื้อบัตรเข้าฟังงานปราศรัยต่อที่ประชุมธุรกิจในหัวข้อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยนายกรัฐมนตรีนาเรนทรา โมดี ของอินเดีย จะขึ้นเวทีปราศรัยในงานนี้ด้วย

ด้านกลุ่มนักวิจารณ์ ระบุว่า กิจการในครอบครัวของผู้นำสหรัฐฯอาจจะได้ประโยชน์จากการทำธุรกิจในต่างแดนในแง่ที่ว่ารัฐบาลต่างประเทศ โดยเฉพาะรัฐบาลที่ต้องการเอาอกเอาใจสหรัฐฯ อาจจะทำการในลักษณะเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจในครอบครัวของผู้นำสหรัฐฯในด้านต่างๆ

ทีมต่างประเทศ

CR:AFP,www.newindianexpress.com.