โฆษกกมธ.ร่วมฯ เชื่อมั่น การพิจารณาร่างกฎหมายลูก2ฉบับไม่น่ามีปัญหา

การประชุมเพื่อแก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. นายสมชาย แสวงการ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการร่วมฯ ร่างพ.ร.ป. ฉบับดังกล่าว เชื่อว่า การพิจารณาไม่มีปัญหา  เริ่มลงรายละเอียดทีละมาตรา เป็นการพิจารณาแก้ไขในเรื่องของการปฏิบัติ ประมาณ 4-5 ประเด็น เช่น การหาข้อสรุปเรื่องเวลาลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ก่อนหน้านี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เห็นควรให้เปิดหีบลงคะแนนได้ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00น. แต่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) มีข้อโต้แย้งกลับไปในชั้นคณะกรรมาธิการร่วมฯว่าควรเปิดหีบลงคะแนนเลือกตั้งในเวลา 08.00-16.00น.เท่านั้น รวมถึงประเด็นบัตรใบเดียว และการกาบัตรลงคะแนนเสียงแทนกัน

ในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. คณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ต้องคุยหาทางออกแบบวิน-วินร่วมกันหมายถึง ต้องช่วยกันปรับแก้พิจารณาไปตามเหตุผล ซึ่งกรธ.และกกต.ก็เคยแถลงถึงเจตนารมณ์ของตัวเองไปบ้างแล้ว สุดท้ายเชื่อว่าจะมีทางออกที่ดีที่สุดแบบวิน-วินร่วมกันได้ สิ่งสำคัญ 3 ประการในการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้  คือ ต้องไม่ขัดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560  ไม่ขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และ  ต้องตอบโจทย์การปฏิรูปประเทศ สำหรับร่างกฎหมายลูกนี้เหลือประเด็นใหญ่ที่ต้องพิจารณาอยู่ 3 ประเด็น

ส่วนวันพรุ่งนี้ที่ที่ประชุมสนช.มีวาระพิจารณาให้ความเห็นชอบกกต.ชุดใหม่จำนวน 7 คน นายสมชาย ระบุว่า ยังไม่ทราบว่า 7 คนจะผ่านการเห็นชอบและการตรวจคุณสมบัติหมดหรือไม่ ถ้าผ่านหมดทั้ง 7 คน หรือผ่านอย่างน้อย 5 หรือ 6 คนตามที่กฎหมายกำหนด ก็สามารถนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯได้ทันที และเมื่อโปรดเกล้าฯแล้ว กกต.ชุดใหม่ก็สามารถคัดเลือกตำแหน่งต่างๆได้ทันที ทั้งนี้ไม่สามารถระบุได้ว่ากกต.ชุดใหม่จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้เมื่อใด หากมีกรณีที่ที่ประชุมสนช.ไม่สามารถเห็นชอบกกต.ได้ครบ 7 คนในวันพรุ่งนี้ ตำแหน่งที่ขาดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหาใหม่ต่อไป แต่ยืนยันว่ากกต.จะไม่มียุคสูญญากาศ และหากมีการเลือกตั้งไม่ว่าในระดับใดก็จะมีกกต.ชุดเก่าหรือชุดใหม่ทำหน้าที่อย่างแน่นอน

แฟ้มภาพ

ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์  สิทธิเกรียงไกร