กมธ.ร่วม3ฝ่ายฯว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.เตรียมพิจารณาปรับแก้3มาตราตามที่มีการยื่นคัดค้าน

ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย เพื่อพิจารณาแก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ที่มีกำหนดประชุมนัดที่ 2 ในช่วงบ่ายวันนี้ 

พล.ร.อ. ธราทร ขจิตสุวรรณ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการร่วมฯ ร่างพระราชบัญญัติฯ ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. เปิดเผยว่า จะเป็นการพิจารณาปรับแก้ 3 มาตรา ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอโต้แย้งมาว่าไม่เห็นด้วยที่มีการปรับแก้ไขในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประกอบด้วย การปรับแก้ลดกลุ่มอาชีพผู้ประสงค์สมัครเป็นส.ว.จาก 20 ให้เหลือ 10 กลุ่มอาชีพ, การให้ชมรม สมาคม มีสิทธิ์เสนอชื่อบุคคลมาเป็นส.ว.ได้ และการปรับแก้ให้เลือกกันเองแทนการเลือกไขว้ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่า จะได้ข้อสรุปทั้ง 3 มาตราหรือไม่ แต่จะเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุด โดยจะเริ่มพิจารณาประเด็นการปรับลดเหลือ 10 กลุ่มอาชีพก่อน เพราะจากการคุยกันครั้งก่อน กรธ.ยังยืนยันว่าจะต้องมี 20 กลุ่มอาชีพตามที่เคยเสนอ เพื่อไม่ให้ขัดกับเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ยืนยันว่าการพิจารณา จะเป็นไปตามเหตุผลและการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะหลายมาตรามีความเกี่ยวโยงกัน

นอกจากนี้แล้ว คณะกรรมาธิการร่วมฯ มีกำหนดจะพิจารณาแก้ไขบทลงโทษของผู้ประสงค์สมัครเป็นส.ว., ผู้สนับสนุนให้สมัคร และผู้เกี่ยวข้องกับการสมัครต่างๆด้วย แต่คงไม่พิจารณาในวันนี้ เพราะจะต้องสรุปมาตราสำคัญให้แล้วเสร็จก่อน ทั้งนี้คณะกรรมาธิการร่วมฯมีกำหนดประชุมนับรวมวันนี้อีก 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จะเป็นการสรุปรวมร่างพระราชบัญญัติฯ ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. จากนั้นจะส่งให้สนช.ทันที ยืนยันว่าจะแล้วเสร็จก่อนวันที่ 1 มีนาคมตามที่กฎหมายให้เวลาไว้แน่นอน

ส่วนการประชุมครั้งที่แล้วที่คณะกรรมาธิการร่วมฯมีมติให้ปรับแก้ในม.64 โดยเพิ่มอำนาจให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีอำนาจส่งเรื่องให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้ง และแจกใบดำ ใบแดงแก่ผู้สมัครส.ว.ได้ หลังประกาศผลคัดเลือกนั้น ยืนยันว่าสาระสำคัญครบถ้วนแล้ว ไม่ต้องหารือกันอีก เหลือเพียงการปรับแก้ถ้อยคำที่เกี่ยวกับการเพิ่มความร้ายแรงของการกระทำ และการสรุปหลักการการให้ใบดำ ใบแดง และการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องตามม.226 ของรัฐธรรมนูญ

...

ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร