*ปธ.กก.บริหารธนาคารกรุงเทพ เตือนรัฐบาล ไม่ควรออกมาตรการกระตุ้นศก.*

ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ในปีนี้  นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้ในระดับร้อยละ 1.5-2 พร้อมเตือนรัฐบาลว่า ในระยะสั้น หากไม่จำเป็น รัฐบาลไม่ควรออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่มีเสียงเรียกร้องอย่างมาก สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงไม่ควรดำเนินการ คือ สนับสนุนให้ประชาชนบริโภค เพราะจะทำให้การออมภาคครัวเรือนลดลง จะเห็นจากการออมได้ลดลงต่อเนื่องจากร้อยละ 10 ในปี 2542 เหลือร้อยละ 5 ในปัจจุบัน ซึ่งเงินออมสำคัญมากเนื่องจากต้องมีการออมไว้ใช้ในช่วงเกษียณ เพราะประเทศไทย เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยอายุเฉลี่ย ชายไทยมีอายุเฉลี่ยน 70  ปี และหญิงไทยมีอายุเฉลี่ยที่ 87 ปี ต้องใช้เงินดูแลตัวเอง

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ไม่ดีนักเพราะได้รับแรงกดดันจากนโยบายประชานิยมของรัฐบาลก่อนหน้า ซึ่งจะส่งผลกดดันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย ต่อเนื่องออกไปอย่างน้อยตลอดปีนี้และปีหน้า ได้แก่ โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โครงการรถยนต์คันแรก ที่ทำให้ยอดซื้อรถยนต์เพิ่มจากปีละ 800,000 คันเพิ่มอีก 600,000 คัน จนทำให้ยอดขายรถปัจจุบันติดลบ ขณะที่หนี้ภาคครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ

การเติบโตเศรษฐกิจไทยไม่จำเป็นต้องโตจากการส่งออกรถยนต์ และสินค้าอื่น ๆ อีกต่อไป เศรษฐกิจไทยจะโตจากภาคบริการได้ ด้านความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย จำเป็นจะต้องพิจารณาและเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันเป็นสำคัญไม่ใช่มองเพียงตัวเองเท่านั้น และจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องการออกไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านอย่างฮอนด้าวางแผนขยายกำลังการผลิตรถยนต์ในประเทศอินโดนีเซีย เพราะสังคมไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่อัตราการบริโภคจะลดลง

นายโฆสิต แนะให้จับตาเศรษฐกิจจีนและสหรัฐที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยในส่วนของประเทศจีน รัฐบาลตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 7.6 ในปีนี้ ลดลงจากร้อยละ 7.7 และรัฐบาลจีนได้ประกาศออกมาว่า จะให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเหลือเพียงร้อยละ 5.5 เท่านั้น