อิสราเอลเตือนอิหร่าน/เกาหลีใต้-จีนตอบโต้มาตรการการค้าสหรัฐ/นักเรียนอเมริกันประณามทรัมป์

ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวเตือนอิหร่านในระหว่างการประชุมความมั่นคงมิวนิค ที่เยอรมนี ว่าจะไม่ปล่อยให้อิหร่านเป็นอันตรายต่ออิสราเอล และแสดงชิ้นส่วนของโดรนที่อิสราเอลยิงตกและยึดมาได้ต่อที่ประชุม

โดยเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ อิสราเอลพบโดรนรุกล้ำน่านฟ้ามาจากทางฝั่งที่ติดต่อกับซีเรีย ผลการตรวจสอบพบว่าเป็นของกองทัพอิหร่าน จึงส่งเครื่องบินรบบุกโจมตีเป้าหมายของอิหร่านในซีเรียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามซีเรียเริ่มขึ้นในปี 2554

อย่างไรก็ตามนายโมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีการต่างประเทศอิหร่าน แถลงในที่ประชุมเดียวกันว่า อิสราเอลดำเนินนโยบายก้าวร้าวต่อเพื่อนบ้าน ทั้งยืนยันว่า อิสราเอลมีปฏิบัติการทางทหารบุกรุกซีเรียกับเลบานอนเกือบทุกวัน

ส่วนที่อิหร่าน หน่วยกู้ภัยต้องยุติการค้นหาเครื่องบินโดยสารประสบเหตุตกในเขตภูเขาเดนา ในเทือกเขาซากรอส พร้อมผู้โดยสารและพนักงานบนเครื่องบินรวม 66 ราย เนื่องจากเกิดพายุหิมะรุนแรงขึ้นในพื้นที่

กรณีที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เสนอใช้ภาษีอัตราใหม่สินค้าเหล็กกล้านำเข้าจากหลายประเทศ และทบทวนข้อตกลงการค้าเสรี ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯมองว่าเป็นหายนะ หลังจากที่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้ และจีน จนทำให้ทั้ง 2 ประเทศไม่พอใจ ประธานาธิบดีมุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้ สั่งให้รัฐบาลพิจารณาทุกมาตรการและทุกช่องทางเพื่อตอบโต้มาตรการปกป้องการค้าและเงื่อนไขไม่เป็นธรรมของสหรัฐ รวมถึงการยื่นร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก ทั้งแสดงความวิตกต่อมาตรการปกป้องการค้าของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มความรุนแรงจนอาจมีผลต่อเศรษฐกิจประเทศที่พึ่งพิงการส่งออกอย่างเกาหลีใต้

จากเหตุกราดยิงในโรงเรียนสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นเป็นระยะ และทำให้เกิดเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายควบคุมการครอบครองอาวุธปืน กลุ่มนักเรียนที่รอดชีวิตจากเหตุกราดยิง ร่วมด้วยครอบครัวและผู้สนับสนุนเข้าร่วมการรณรงค์ ทั้งนี้ หลังจากที่เกิดเหตุกราดยิงที่โรงเรียนมาร์จอรี สโตนแมน ดั๊กลาส ไฮสคูล ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความตำหนิสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอว่า มัวแต่สอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งเมื่อ 2 ปีก่อน จนละเลยการแจ้งเตือนเหตุกราดยิง ทั้งวิจารณ์เดโมแครตที่ไม่สามารถผ่านกฎหมายควบคุมอาวุธปืน ทำให้ถูกนักเรียนตอบโต้อย่างเสียหาย ว่าแทนที่จะทำให้คนในชาติมีความสามัคคี กลับยุยงให้เกิดความแตกแยก และทำให้ทำเนียบขาว ต้องออกแถลงการณ์ว่าประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียนในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ และจะพบกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงในวันถัดไป

ส่วนการดำเนินคดีนายนิโคลัส ครูซ อายุ 19 ปีผู้ก่อเหตุ พบประวัติถูกไล่ออกจากโรงเรียนที่เกิดเหตุขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเทศมณฑลโบรวาร์ด ภายใต้ข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อนรวม 17 กระทง

นอกจากนี้ นักเรียนยังเปิดเผยรายชื่อของบรรดานักการเมืองที่รับเงินสนับสนุนจากสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ ที่เป็นสมาคมผู้มีอิทธิพลและสนับสนุนการครอบครองอาวุธปืน ทั้งเรียกร้องให้นักการเมืองเลิกข้างที่ถูกต้อง รวมทั้งนัดชุมนุมในวันที่ 24 มีนาคม เพื่อต่อต้านความรุนแรงจากอาวุธปืนในวอชิงตันและเมืองอื่นๆ ภายใต้ชื่อ การเดินขบวนเพื่อชีวิตของเรา (March For Our Lives) เพื่อกดดันให้สมาชิกรัฐสภาออกกฎหมายควบคุมการครอบครองอาวุธปืน และกฎหมายเยียวยาสุขภาพจิต

สหรัฐฯ ออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่น หารือยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ซึ่งเป็นแผนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานร่วมในภูมิภาค เพื่อแข่งขันกับยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางหรือเส้นทางสายไหมรูปแบบใหม่ของจีน ที่มีมูลค่านับล้านล้านดอลลาร์ โดยในสัปดาห์นี้ นายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ แห่งออสเตรเลียจะเดินทางเยือนสหรัฐฯ ขณะที่ญี่ปุ่นยอมรับว่าทั้ง 4 ประเทศมีการหารือเกี่ยวกับผลประโยชน์ร่วมกันเป็นระยะ แต่ไม่ยืนยันเรื่องการเป็นคู่แข่งกับนโยบายของจีน

การส่งออกของญี่ปุ่นขยายตัวเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกันในเดือนมกราคม ที่ระดับร้อยละ 12.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หลังจากที่ในเดือนธันวาคมอยู่ที่ระดับร้อยละ 9.3 มากกว่าคาดการณ์ที่ว่าจะขยายตัวร้อยละ 10.3 โดยมีการส่งออกไปยังจีนมากที่สุดคือเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.8 ในเดือนมกราคม ส่งสัญญาณว่าความต้องการสินค้าญี่ปุ่นจากทั่วโลกจะสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง

 …