พล.ต.ต.ชาญ ย้ำไม่ตัดพยานแวดล้อม คาด2วันชัดเจนเรื่องย้ายตร.ที่เกี่ยวข้องหรือไม่

ก่อนการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีสลากกินแบ่งรางวัล 30 ล้านบาท ระหว่างร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล กับนายปรีชา ใคร่ครวญ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี พลตำรวจตรีชาญ วิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวน เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการประชุมคณะทำงานและพนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้เป็นครั้งแรก พร้อมยอมรับว่าขณะนี้พยานหลักฐานยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่มีความคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 70-80 คาดว่าคดีนี้จะคลี่คลายภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ หากกระบวนการสืบสวนสอบสวนเสร็จสิ้นก็จะสามารถออกหมายจับได้ทันที โดยไม่ต้องมีหมายเรียก ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่สามารถออกหมายจับใครได้ และยังไม่สามารถชี้ได้ว่าล็อตเตอรี่เป็นของครูปรีชาหรือร้อยตำรวจโทจรูญ

พลตำรวจตรีชาญ ระบุว่า ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กำชับให้สอบสวนในประเด็นที่เชื่อมโยงกับพยานหลักฐานที่เข้ามาสู่สำนวน ว่ามีที่มาอย่างไร โดยการสอบสวนไม่ได้มีการตัดพยานแวดล้อมออก แต่มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาว่าส่วนไหนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่เกิดเหตุจะแยกออกเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง เจ้าหน้าที่จะคัดเฉพาะพยานที่เกี่ยวข้องกับที่เกิดเหตุเท่านั้น โดยขณะนี้มีพยานแวดล้อมของครูปรีชาไม่เกิน 10 ปาก ยืนยันว่าไม่มีการดักฟังการสนทนา เพราะครูปรีชาได้มีการเซ็นต์ยินยอมให้มีการตรวจสอบ

ส่วนวันพรุ่งนี้ที่ถึงกำหนดการรับทราบข้อกล่าวหาของร้อยตำรวจโทจรูญ ก็ต้องยกเลิกไปก่อน เนื่องจากต้องมีการสืบพยานหลักฐานใหม่ เพราะการสืบสวนตอนนี้อยู่ในภายใต้การทำงานของกองบังคับการปราบปราม

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นายที่ทำคดี ขณะนี้ยังมีการสอบสวนอยู่ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเน้นย้ำให้สอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่เชื่อมโยงกับคดีทั้งหมด และยืนยันว่าการสอบสวนตำรวจทั้ง 4 นาย ไม่ได้เป็นไปอย่างเคร่งเครียด ส่วนในจำนวน 4 นายนี้ จะมีตำรวจคนใดถูกออกหมายจับหรือไม่ พลตำรวจตรีชาญ ระบุว่า ให้รอดูต่อไป และไม่กลัวว่าเมื่อออกหมายจับแล้วจะมีใครหลบหนี เพราะไม่ใช่คดีใหญ่โต

ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนยังไม่หมดข้อสงสัยในตัวของนายแผนและนางกุ้ง พยานของครูปรีชา แต่เบื้องต้นไม่พบความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับกลุ่มแม่ค้า ส่วนจะมีการย้ายผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีหรือไม่นั้น ต้องสอบถามจากผู้บังคับบัญชา คาดว่าอีกสองวันจะได้รับความชัดเจน

ส่วนคลิปเสียงสนทนาคลิปที่ 2 ที่ออกมา ยังไม่ทราบว่าออกมาได้อย่างไร จะต้องมีที่มาที่ไปตามข้อเท็จจริง เมื่อถามว่าจะมีคลิปเสียงมากกว่านี้อีกหรือไม่ พลตำรวจตรีชาญ ระบุว่า ให้รอดูทีเด็ด ทั้งนี้ไม่มีความจำเป็นจะต้องเทียบเสียงกับครูปรีชา เพราะครูปรีชายอมรับตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นเสียงของตัวเอง

ขณะเดียวกันครูปรีชา ให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าว ยืนยันว่า คลิปเสียงที่ยอมรับกับตำรวจเป็นเสียงของตัวเอง มีแค่บางส่วน และไม่กังวลใจใดๆ ทั้งสิ้นหากผลคดีออกมาว่าเป็นคนผิดและไม่คิดจะหลบหนี

ผู้สื่อข่าว:ปภาดา พูลสุข