สหรัฐฯ ถูกโจมตีทางไซเบอร์สูงถึง 109,000 ล้านดอลลาร์ฯ

ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจประเมินมูลค่าความเสียหายจากการโจมตีไซเบอร์หรือในระบบคอมพิวเตอร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว คิดเป็นตัวเลข 57,000-109,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  โดยเตือนว่า การโจมตีดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวงกว้าง หากสถานการณ์เลวร้ายลง รายงานอ้างประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่า ประเทศที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในสหรัฐฯ อย่างหนัก ได้แก่ รัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ แต่การโจมตีดังกล่าวมิได้เป็นเพียงฝีมือตัวแสดงต่างชาติ แต่มีคู่แข่งทางธุรกิจ คนวงใน นักฉวยโอกาส นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และองค์กรอาชญากรรม ซึ่งเจาะระบบข้อมูล ขโมยทรัพย์สินทางปัญญา และข้อมูลอ่อนไหวทางยุทธศาสตร์และการเงิน รายงานยังได้แสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ทางหลวง สายไฟฟ้า ระบบสื่อสาร เขื่อน และสิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิตอาหาร ซึ่งสามารถส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะการโจมตีในภาคการเงินและพลังงาน เนื่องจาก ภาคเหล่านี้มีความเชื่อมโยงภายในและเป็นอิสระจากภาคอื่นๆ ทั้งยังมีความเชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตอย่างแข็งแกร่ง และมีความเสี่ยงสูงสุดในการส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก รายงานยังได้ให้ข้อสังเกตว่า ภาคเอกชนลงทุนในระบบป้องกันต่ำ ทั้งยังให้คำแนะนำการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อช่วยสกัดแผนการโจมตี

วันเดียวกัน นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมด้านความมั่นคงที่นครมิวนิค เยอรมนี เรียกร้องผู้นำโลกให้หารือกันอย่างจริงจังในการแก้ปัญหาว่า ประเทศต่างๆ ควรดำเนินมาตรการตอบโต้การโจมตีไซเบอร์อย่างไร โดยเห็นว่า การหาฉันทามติเรื่องดังกล่าวถือเป็นประเด็นเร่งด่วน รัฐบาล ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาคประชาสังคม นักวิชาการ และศูนย์วิจัยต่างๆ ควรร่วมมือกัน เพื่อสร้างข้อตกลงพื้นฐาน เพื่อให้การใช้เว็บไซต์ต่างๆ เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ

ทีมต่างประเทศ

CR:File Photo Reuters