+++การให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงข้อมูลนาฬิกา 25 เรือนเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 3 ที่ครบกำหนดการชี้แจงในวันที่ 15 ก.พ.นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ส่งหนังสือขอขยายระยะเวลาการชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนาฬิกาหรู และแหวนเพชร ต่อ ป.ป.ช.ออกไปอีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่ายังติดปฏิบัติภารกิจต่อเนื่อง และมีเอกสารที่เกี่ยวข้องหลายอย่างที่ต้องรวบรวมนำมาเป็นหลักฐานเพิ่มเติม จึงขอขยายเวลาออกไปอีก 15 วัน ทั้งนี้ เป็นไปตามระเบียบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังนั้น เมื่อครบกำหนดในวันที่ 2 มี.ค.นี้ พล.อ.ประวิตร จะต้องยื่นคำชี้แจงต่อ ป.ป.ช. จะไม่สามารถขอขยายระยะเวลาได้อีก เนื่องจาก ป.ป.ช.ให้ขยายเวลาได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น ยอมรับว่า จากการขอขยายระยะเวลาในรอบล่าสุดนี้ ทำให้ ป.ป.ช.ไม่สามารถจะตรวจสอบกรณีนาฬิกาหรูดังกล่าวได้เสร็จสิ้นภายในเดือน ก.พ.ตามที่เคยบอกไว้ได้
+++กรณีที่สนช.ตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า บางประเด็นได้ตั้งข้อสังเกตไปแล้ว อย่างกรณีมหรสพ ไม่น่าจะย้อนกลับไปสร้างปัญหาหรือค่านิยมที่เราไม่ควรจะส่งเสริมในการปฏิรูปทางการเมือง ส่วนปัญหาเรื่องการจะเลื่อนการบังคับใช้ ขอยืนยันว่า พรรคการเมืองไม่ได้มีปัญหาในการปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมือง เพราะอุปสรรคจริง ๆ ที่ทำให้ทุกอย่างเดินไม่ได้ ไม่ได้อยู่ที่ตัวพรรคการเมืองกับตัวกฎหมาย แต่อยู่ที่ คสช. ยังไม่อนุญาตให้ปฏิบัติตาม
+++ส่วนที่มีการมองกันว่าหากใน กมธ.ร่วม 3 ฝ่าย มีความเห็นแย้ง จนนำไปสู่การคว่ำร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หวังว่าคงไม่ไปถึงจุดนั้น และเชื่อว่าต้องหาข้อยุติร่วมกัน และถ้า คสช. มีความมุ่งมั่น ไม่ให้การคว่ำกฎหมายมาเป็นอุปสรรคอีก คสช. ก็ต้องเข้าไปดำเนินการไม่ให้มีการคว่ำกฎหมาย ก็ทำได้อยู่แล้ว
+++ด้านนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) กล่าวว่า คณะกมธ.ร่วม3 ฝ่าย เริ่มการทำงานในสัปดาห์หน้า โดยมีเวลาทำงาน 15 วัน ซึ่งได้พูดคุยกันเบื้องต้นว่ากมธ.ร่วม 3 ฝ่าย จะพูดคุยในประเด็นที่เพิ่มมาใหม่ ซึ่งไม่ได้ยืนอยู่ที่จุดแรกตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นคงไม่ตั้งกมธ.ร่วม ข้อมูลใหม่ ๆ เท่าที่ฟังและจะถกกันหนัก ๆ เช่น ในกฎหมายลูกส.ว.ที่กรธ.ไม่เอาด้วย เพราะเห็นว่ายังไม่ตรงตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ทั้งเรื่องการลดจำนวนกลุ่มอาชีพจาก 20 เหลือ 10 กลุ่ม การปรับแก้ไขในประเด็นเลือกไขว้ผู้สมัคร รวมถึงการปรับให้มีทั้งการสมัครแบบอิสระ กับการสมัครแบบเลือกตรง
+++ส่วนกฎหมายลูกเลือกตั้งส.ส.มีแค่ประเด็นมหรสพเรื่องเดียว น่าจะพอไปได้ ดังนั้นการที่ฝ่ายการเมืองบอกว่าพยายามทำให้วุ่นวายจนนำไปสู่การคว่ำกฎหมายลูกนั้นไม่จริง ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง ไม่ได้มีใบสั่ง และไม่ได้รอสัญญาณคว่ำกฎหมายลูกจากใครด้วย การพูดดังกล่าวถือเป็นการเมืองโดยไม่ฟังเหตุฟังผล เชื่อในวินาทีนี้ว่า หลังจากกมธ.ร่วม 3 ฝ่ายพิจารณา แล้วส่งเข้าสภาใหญ่ น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี และราบรื่น และจะเป็นตัวแปรทำให้โรดแมปขยับเดินหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง วันเลือกตั้งก็จะชัดเจนขึ้นด้วย
+++ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกให้ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาลักลอบล่าสัตว์ ให้มารับทราบข้อกล่าวหาทารุณกรรมสัตว์เพิ่มเติมอีก 1 คดี พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการประสานว่านายเปรมชัย จะเข้ามาให้ปากคำในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ แต่สุดท้ายก็ไม่มาตามนัด ขณะที่วันนี้ ได้รับการประสานจากทนายความของนายเปรมชัย ว่า ขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาออกไปก่อน เนื่องจาก นายเปรมชัย ติดภารกิจสำคัญ หลังจากนี้ พนักงานสอบสวน เตรียมออกหมายเรียกรอบ 2 ให้นายเปรมชัย มารับข้อหา ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ส่วนผลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน การตรวจชิ้นเนื้อ ขณะนี้ผลตรวจยังไม่ออกมา
+++หลังจากที่เมื่อวานนี้ พนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์ในสถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ออกหมายเรียก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าให้ปากคำในฐานะพยานชี้แจงเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินทั้งหมด รวมถึงข้อมูลในประเด็นที่ยืมเงิน 300 ล้านบาท จากนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของกิจการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท พนักงานสอบสวนได้ซักถามในหลายประเด็นทั้งความสัมพันธ์ระหว่างพล.ต.อ.สมยศ กับนายกำพล ซึ่งพล.ต.อ.สมยศ ก็ให้การคล้ายกับที่เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน ส่วนประเด็นการรับโอนเงินจำนวน 300 ล้านบาท พล.ต.อ.สมยศ ก็ระบุว่าไม่ทราบว่านายกำพลนำเงินมาจากแหล่งใด แต่ได้คืนเงินให้ทั้งหมดแล้ว ในประเด็นการคืนเงินจำนวน 300 ล้านบาท พนักงานสอบสวนได้ขอให้พล.ต.อ.สมยศนำเอกสารหลักฐานการชดใช้เงินมาส่งมอบเพิ่มเติม เนื่องจากพล.ต.อ.สมยศไม่ได้เตรียมเอกสารมายื่นประกอบคำให้การ นอกจากนี้ยังได้สอบถามถึงจุดประสงค์การยืมเงิน ซึ่งพล.ต.อ.สมยศ ระบุว่า เป็นการนำเงินไปลงทุน ส่วนจำนวนเงินที่ลดลงหรือไม่ตรงกัน เป็นเพราะขาดทุนจากการลงทุน
+++กรณีที่นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี ญาตินักธุรกิจสาวเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ผู้เสียหายที่เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบปราม หลังถูก พ.ต.ต.รายหนึ่งข้าราชการระดับ ซี 9 สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ใช้อาวุธปืนบังคับข่มขืนและถ่ายคลิปไว้แบล็คเมล์ เรียกเงิน 2 ล้านบาท ดีเอสไอ ยืนยันว่าเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังกระทรวงยุติธรรม และมีการตั้งคณะกรรมสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว แสดงให้เห็นว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก และหวังว่ากองปราบปราม จะสามารถช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้ได้
+++ด้านพ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์ สว.กก.1 บก.ป. ผู้รับผิดชอบคดีจะสรุปเรื่องราวที่ผู้เสียหายมาแจ้งความทั้งหมด แล้วส่งให้พนักงานสอบสวน กก. 2 บก.ป. ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี ดำเนินการต่อไป
+++ขณะที่ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวง เปิดเผยว่า ได้แจ้งคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาลงนามรับทราบคำสั่งแล้ว ปัจจุบันเรื่องอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานจากผู้ถูกกล่าวหา และวางแนวทางการกำหนดประเด็นการสอบสวน ซึ่งดูตามตารางการปฏิบัติงานของคณะกรรมการฯ แล้วจะเริ่มประชุมนัดแรกในสัปดาห์หน้า และถ้าหากมีพยานหลักฐานชัดเจน กระบวนการสอบสวนทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายใน 180 วันตามที่กฎหมายกำหนด
+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย เคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยภาพรวมการลงทุนดีขึ้น ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดบวก และราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้มีแรงซื้อในกลุ่มพลังงานช่วยหนุนดัชนีปิดบวกท้ายสัปดาห์ ส่งผลให้ปิดตลาดที่ 1,805.89 จุด เพิ่มขึ้น 5.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37,776.42 ล้านบาท
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากตลาดวอลล์สตรีทที่ทะยานขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนไม่ให้ความสนใจต่อเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 255.27 จุด ปิดที่ 21,720.25 จุด
+++กรณีนายนิโคลัส ครูซ วัย 19 ปี อดีตนักเรียนชั้นม.ปลายที่ถูกไล่ออกเนื่องจากมีปัญหาร้ายแรงเรื่องวินัย กลับไปก่อเหตุกราดยิงคนในโรงเรียนมาร์จอรี สโตนแมน ดั๊กลาส ไฮสคูล เมืองพาร์คแลนด์ รัฐฟลอริดาเมื่อวันพุธ มีคนเสียชีวิต 17 ศพ ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างตำรวจสหรัฐฯว่า แม้แต่ข้อความต่างๆที่นายครูซโพสต์ทางสังคมออนไลน์ก็ไม่บ่งชี้ว่าเขาเป็นคนที่รักความสงบสุขในสังคม คือเขาโพสต์ข้อความว่าต้องการจะใช้ปืนเอเค-15 ฆ่าคน และยังพูดถึงตำรวจและผู้ประท้วงการชุมนุมของกลุ่มชาตินิยมผิวขาวว่า ควรถูกฆ่าให้ตาย นอกจากนั้นเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว โพสต์ข้อความว่าต้องการจะเป็นมือปืนอาชีพ ตำรวจเปิดเผยว่านายครูซเคยโพสต์ข้อความในเชิงข่มขู่คนอื่นๆถึงขั้นที่มีการรายงานให้หน่วยเอฟบีไอของสหรัฐฯทราบเรื่องนี้มาแล้ว
+++ด้านนายจิม ลูอิส ทนายความของครอบครัวที่อุปการะนายครูซ หลังแม่บุญธรรมเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้วเปิดเผยว่า เช้าวันก่อเหตุ ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติ แต่สิ่งเดียวที่พอจะเห็นผิดปกติคือวันนั้นเขาไม่ได้ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่ง เมื่อพ่อไปปลุกให้ตื่นเช้าไปโรงเรียน นายครูซ ตอบว่าไม่อยากไปโรงเรียนในวันวาเลนไทน์ นอกจากนั้นอีกเรื่องหนึ่งที่ครอบครัวทราบดีคือนายครูซมีปืน แต่มีกติกาว่าเขาจะต้องเก็บปืนไว้ในตู้เก็บปืนที่ปิดล็อคอย่างมิดชิดในห้องนอนของเขา โดยนายครูซมีกุญแจไขตู้ดังกล่าว ทนายความระบุว่าครอบครัวคิดว่าพยายามทำอย่างดีที่สุดแล้วคือรับเด็กที่มีปัญหาในครอบเข้ามาอยู่อาศัย ส่วนเรื่องปืน ครอบครัวก็คิดว่าเก็บในตู้เก็บปืนอย่างมิดชิดก็ไม่น่าจะมีการนำปืนมาใช้ก่อเหตุ
แฟ้มภาพ