กรณีที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระบุว่า การเลือกตั้งอาจยาวไปจนถึงเดือนมี.ค. 2562 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า หากพูดถึงโรดแมปคนทั่วไปจะคิดได้อย่างเดียวกันว่าจะเกิดอะไร เมื่อใด ทุกอย่างมีวันเวลากำหนดอยู่แล้ว และไม่อยากจะระบุว่าเป็นวันอะไร เพราะความชัดเจนจะเกิดในเดือน มิ.ย.2561 ที่คาดว่ากฎหมายลูกทั้งหมดจะประกาศใช้ โดยคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 53/2560 ระบุไว้ว่าให้เชิญคนที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือกัน ทุกอย่างจึงจะปรากฏชัดเจน ทั้งนี้ หากกฎหมายลูกถูกคว่ำในชั้นกรรมาธิการร่วม หน่วยงานใดก็สามารถร่างกฎหมายลูกฉบับใหม่ได้ เพราะไม่มีการเขียนกำหนดเอาไว้ว่าเป็นหน้าที่ของใคร ตั้งขึ้นมาใหม่หรือให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชุดเดิมทำหน้าที่ก็ได้ ถ้าจะให้ง่ายก็ให้ กรธ.ทำหน้าที่ เพราะได้ระบุว่าดำเนินการ 2 วัน ก็แล้วเสร็จ
ส่วนการยื่นหนังสือล่ารายชื่อกว่า 80,00 รายชื่อ ถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เพื่อให้พลเอกเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง หลังเคยให้สัมภาษณ์ ว่าหากประชาชนไม่ต้องการก็พร้อมจะออกจากตำแหน่ง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีผลทางกฎหมายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคำลงท้ายว่าเป็นการยื่นขออะไร ซึ่งต้องดูเจตนาแต่หากเป็นการยื่นให้ลาออกต้องไปยื่นที่อื่น เช่น รัฐสภา โดยหลักการสามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า ไม่กระทบกับรัฐบาล เพราะสามารถทำได้ตามสิทธิหน้าที่ของแต่ละคน
กรณีผลดัชนีของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า สถานการณ์คอรัปชั่นของไทยแย่ลง มีการจ่ายสินบนเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี นายวิษณุ กล่าวว่า รัฐบาลได้รับทราบและจะเข้าไปตรวจสอบแก้ไข เชื่อว่า ผลดัชนีจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล หรือ ส่งผลต่อการประเมินตัวชี้วัด แม้ว่าจะมีผลในเรื่องของความรู้สึกของประชาชนจำนวนหนึ่งในสังคมที่อาจมีข้อสงสัย แต่ก็มั่นใจในมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการทั้งด้านกฎหมาย และ ตัวบุคคล ที่ได้ทำอย่างจริงจัง นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เป็นคดีความที่เห็นได้ชัดเจน