แถลงการณ์ของทำเนียบขาว ระบุว่า กองทัพรัสเซีย อยู่เบื้องหลังการปล่อยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ น็อตเพตยา ไปทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐฯ ว่า ทำเนียบขาว ออกแถลงการณ์ว่าหน่วยข่าวกรองของกองทัพรัสเซียอยู่เบื้องหลังการสร้างมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกเมื่อช่วงเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว มัลแวร์ดังกล่าวที่มีชื่อว่า น็อตเพตยา มีเป้าหมายสร้างความเสียหายให้กับระบบควบคุมสาธารณูปโภคและภาคธุรกิจในยูเครนมากที่สุด โดยมีการโจมตีมากกว่า 2,000 ครั้ง และหากต้องการปลดรหัสเพื่อเข้าถึงข้อมูลตามเดิม ต้องชำระค่าธรรมเนียมในรูปแบบของบิตคอยน์มูลค่า 300 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 9,420 บาท ) แถลงการณ์ดังกล่าวของทำเนียบขาว ระบุว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องได้รับบทลงโทษตามกฎหมาย ได้รับการเผยแพร่ออกมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังนายเกวิน วิลเลียมสัน รมว.กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร และนายทาริก อาหมัด รัฐมนตรีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ประจำทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร พร้อมใจกันกล่าวว่ารัสเซียเปิดแนวรบ สงครามจิตวิทยารูปแบบใหม่ และการตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะเป็นการแสดงจุดยืนของสหราชอาณาจักร ว่าจะไม่ตกเป็นผู้ถูกกระทำจากการโจมตีทางไซเบอร์
ขณะที่ นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวถึงข้อกล่าวหาของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรว่า ไร้สาระ และเป็นการพาดพิงที่ปราศจากหลักฐานอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังเป็นอีกครั้งที่ทั้งสองประเทศพยายามกระจายแนวคิดความหวาดกลัวรัสเซีย
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดในช่วงเวลาหนึ่งของน็อตเพตยาเกิดขึ้นราว 1 เดือนหลังมัลแวร์เรียกค่าไถ่ วอนนาคราย ( WannaCry ) แพร่ระบาดไปในมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และสหรัฐฯ กล่าวหาเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการปล่อยซอฟต์แวร์ตัวนี้ ซึ่งรัฐบาลเกาหลีเหนือปฏิเสธและตำหนิรัฐบาลสหรัฐฯว่ากล่าวหา อย่างเลื่อนลอย
File Photo