สนช.เห็นชอบข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรม ย้ำต้องทำหน้าที่เต็มที่ เน้นประโยชน์ส่วนรวม

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ล่าสุดที่ประชุมได้ลงมติวาระที่ 3 เห็นชอบประกาศใช้ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสนช.และกรรมาธิการ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 160 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 6 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียงสำหรับข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสนช.และกรรมาธิการนั้นมีทั้งสิ้น 45 ข้อ มีข้อบังคับจริยธรรมที่น่าสนใจ เช่น ข้อที่ 23 ที่บัญญัติไว้ว่าสมาชิกสนช.ต้องอุทิศเวลาแก่ทางราชการ ไม่เบียดบังเวลาราชการไปประกอบธุรกิจ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งข้อกำหนดนี้กระทบกับสมาชิกสนช.จำนวนหนึ่งที่รับราชการควบในหน่วยงานอื่นๆ และกระทบสมาชิกบางคนที่มีธุรกิจส่วนตัว เพราะสมาชิกสนช.บางคนต้องไปประกอบธุรกิจหรือทำงานในตำแหน่งอื่นของตัวเองในวันที่มีการประชุมสนช. หรือทำงานด้วย ข้อบัญญัติดังกล่าว จึงส่งผลให้เกิดความกังวลจากสมาชิกสนช.ว่าอาจทำให้ตัวเองขาดคุณสมบัติ และมีการถามถึงความชัดเจนว่าจะมีวิธีการใดที่ทำให้ตัวเองไม่ต้องขาดคุณสมบัติหรือไม่

นายกล้าณรงค์ จันทิก ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ชี้แจงว่า สมาชิกที่ติดภารกิจสามารถยื่นใบลาต่อประธานสนช.อย่างที่เคยปฏิบัติมาได้ และจะไม่ถือว่าการลาดังกล่าวเป็นการขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกสนช. นอกจากนั้น ยังมีข้อที่เกี่ยวกับจริยธรรมที่เป็นอุดมการณ์ จริยธรรมที่เป็นค่านิยมหลัก และเป็นจริยธรรมทั่วไป เช่น การไม่กระทำขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ส่วนรวม  การปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง อิสระ ปราศจากอคติ  และไม่กระทำการสิ่งใดที่เป็นการเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ เป็นต้น สำหรับข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสนช.และกรรมาธิการ จะมีผลบังคับใช้ทันทีหลังจากวันที่สนช.มีมติให้ประกาศใช้

ผู้สื่อข่าว : ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร