กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เตรียมจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตรวจสอบนายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หลังพบว่านายแพทย์ธีระเกียรติ ถือครองหุ้นสัมปทาน ส่อขัดกับรัฐธรรมนูญที่ห้ามรัฐมนตรีถือครองหุ้นสัมปทานใดๆ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า ศาลฎีกาเคยมีคำวินิจฉัยว่ารัฐมนตรีและข้าราชการการเมือง สามารถถือครองหุ้นสัมปทานได้โดยไม่มีความผิดต่อเมื่อถือครองหุ้นสัมปทานมาก่อนรับตำแหน่ง และหลักการทั่วไปก็บัญญัติให้เป็นเช่นนั้น ส่วนหลังเข้ามารับตำแหน่งแล้วจะต้องขายหุ้นออกไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้นที่ถือครองว่ามีผลต่อการออกเสียงในที่ประชุมของคณะกรรมการผู้ถือหุ้นหรือไม่ หากหุ้นมีจำนวนไม่มากก็คงไม่เป็นไร ตรงกันข้ามถ้าเข้ารับตำแหน่งแล้ว รัฐมนตรีไม่สามารถซื้อหุ้นสัมปทานมาไว้ได้แม้แต่หุ้นเดียว เพราะอาจส่อถึงเรื่องผลประโยชน์ สำหรับกรณีนายแพทย์ธีระเกียรติ ตัวเองก็ไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องไปตรวจสอบ ส่วนบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ก็ไม่มีข้อยกเว้นให้รัฐมนตรีถือครองหุ้นสัมปทานได้ นั่นคือ ไม่สามารถถือครองหุ้นได้
นายมีชัย ปฏิเสธที่จะพูดถึงระยะเวลาในการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หากมีการคว่ำร่างกฎหมายลูกทั้งสองฉบับ โดยระบุว่า อย่าเพิ่งไปคิดว่าจะคว่ำหรือไม่คว่ำ แล้วถ้าคว่ำจะใช้เวลาเท่าใด เพราะเป็นเรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เสมือนยังไม่แต่งงานแต่ไปคิดถึงการมีครอบครัวแล้ว ขณะเดียวกัน วันนี้มีกลุ่มขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทยมายื่นหนังสือขอบคุณนายมีชัย ที่สนับสนุนให้กลุ่มสตรีควรเป็นกลุ่มเฉพาะใน 20 กลุ่มอาชีพของกลุ่มบุคคลที่จะได้รับการคัดเลือกเป็นส.ว. แม้ภายหลังจะถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวมกลุ่มสตรีไปรวมกับกลุ่มผู้สูงอายุก็ตาม ซึ่งนายมีชัย ระบุว่า ประเด็นนี้เป็นอีกประเด็นที่ต้องนำไปหารือในคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ซึ่งต้องรอดูว่าคณะกรรมาธิการจะมีความเห็นอย่างไร แต่กรธ.ยังมีเป้าหมายเดิมที่ต้องการให้แยกกลุ่มสตรีเป็นกลุ่มเดี่ยว เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการของรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในการเป็น ส.ว. อย่างน้อย 10 ที่นั่งจากจำนวนทั้งหมด 200 ที่นั่งในส.ว.
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร