สรุปข่าว 19.35 น
+++นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษากฎหมาย คสช.กล่าวถึง กระแสข่าวได้นั่งตำแหน่งรองนายกฯ ดูแลฝ่ายกฎหมายว่า มีการพูดคุยมานานแล้ว ขณะนี้นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและติดต่อให้บุคคลที่มีชื่อมากรอกประวัติ โดยเร็วและไปลาออกจากตำแหน่งอื่นๆ ซึ่งเป็นช่วงสิ้นเดือนต้องเร่งรีบทำซึ่งมีผลต่อการจ่ายเงินเดือนด้วย
+++หลัง ศาลอาญาไม่รับพิจารณาคดีที่อัยการยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในคดีสลายการชุมนุมนปช.หลังเห็นว่า เป็นเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งอยู่ในอำนาจไต่สวนของ ป.ป.ช.ที่ต้องส่งให้ศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณา นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช.ไต่สวนคดีดังกล่าวอยู่แล้ว แต่เป็นกรณีการใช้อำนาจหน้าที่มิชอบในตำแหน่งราชการ ในการสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงปี 53 ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ไม่เกี่ยวกับคดีพยายามฆ่าที่ศาลอาญาไม่รับพิจารณา ซึ่งเป็นคนละฐานความผิดกัน ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก เพื่อหาข้อสรุปให้ได้ว่า ทั้งนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจริงหรือไม่
+++ หลวงปู่พุทธะอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คในหัวข้อ นัดเสวนาพลังงานกันอีกสักครั้งหนึ่ง โดยเชิญชวนให้ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานเตรียมข้อมูล ข้อสงสัย และข้อเสนอแนะมาร่วมหารือที่ศาลาวัดอ้อน้อย วันที่ 5 ก.ย.นี้ เวลา 13.00 น. โดยหลวงปู่ระบุว่า หลังจากเลิกวงเสวนาถามตอบปัญหาพลังงานเรียบร้อยแล้ว กลับมาถึงวัด จึงสั่งให้กองเลขาโทรไปนัดท่านอธิบดีกรมพลังงาน และนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ ขอให้เขามาพบเพื่อนัดหมายกันที่จะทำการถามตอบปัญหาพลังงานทางเลือก และพลังงานฟอสซิลในบางประเด็นที่ไม่ชัดเจนและไม่ได้สอบถาม เพื่อให้คนที่ยังค้างคาใจ สงสัย จะได้ข้อมูลทั้ง 2 ด้านอย่างชัดเจน รวมทั้งจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสงวนพลังงานในประเทศจะสงวนไว้ใช้เฉพาะภาคครัวเรือน ห้ามภาคอุตสาหกรรมนำใช้ ให้ภาคอุตสาหกรรมไปสั่งซื้อมาจากต่างประเทศ
++++ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจและการเงินประจำเดือน ก.ค.57 ภาพรวมเศรษฐกิจทรงตัวจากเดือน มิ.ย.57 การส่งออกที่ยังฟื้นตัวช้าและการผลิตที่อยู่ระหว่างการระบายสินค้าคงคลัง ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมทรงตัว ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น อัตราว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ และอัตราเงินเฟ้อลดลงตามราคาอาหารสดและพลังงาน เชื่อภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยจะชัดเจนขึ้นภายในครึ่งปีหลัง ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ในเดือนกรกฎาคม 2557 อยู่ที่ระดับ 49.6 ต่ำกว่า 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13
+++น.ส.บุญฑริกา ใจสิน อายุ 42 ปี กำนันตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร พร้อมด้วย นายกิตติบูลย์ คูณทวี อายุ 45 ปี กำนันตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี สองสามีภรรยาผู้ใจบุญ ได้เดินทางมาเข้าพบ นายมงคล ยะภักดี หัวหน้าบ้านมิตรไมตรี จ.อุบลราชธานี และนางศรีนภา สวัสดิ์กุล เจ้าพนักงานพัฒนาสังคมชำนาญงาน สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อร่วมกันปรึกษา และประสานงานในการรับตัว นายทองคำ งอกสุข และนางแพง ส่องศรี พ่อแม่น้องเขียว เด็กหญิงพิสมัย งอกสุข ให้ไปทำงานที่สวนในพื้นที่ ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี โดยให้เงินเดือนคนละ 3,000 บาท รวมเป็น 6,000 บาท พร้อมกับจะดูแลเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของทั้งสองคน ขณะนี้อยู่ในระหว่างปรับปรุงพื้นที่พักอาศัย ต่อน้ำต่อไฟเข้าไปในบ้าน คาดว่าน่าจะไม่เกิน 10 วัน จะสามารถ มารับตัวพ่อแม่น้องเขียว ให้ไปอยู่ในอาศัยได้
+++การติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคอีโบลา นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า พบว่ายังคงมีแนวโน้มระบาดอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 4 ประเทศในแอฟริกาตะวันตก พบผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศไลบีเรีย องค์การอนามัยโลกรายงานเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 มีผู้ป่วย 3,069 ราย เสียชีวิต 1,552 ส่วนของประเทศไทย ขณะนี้ยังไม่พบผู้ที่อยู่ในข่ายสงสัยว่าติดเชื้ออีโบลา แนะนำประชาชนไทยหากไม่มีความจำเป็นควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่โรคระบาดจนกว่าการระบาดจะสงบ หากจำเป็นต้องเดินทางไปขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการประเทศนั้นอย่างเคร่งครัด ขณะนี้ไม่มีสายการบินที่บินตรงมาจากประเทศที่มีการระบาด ผลการเฝ้าระวังที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 28 สิงหาคม 2557 มีผู้โดยสารเดินทางมาจากพื้นที่ระบาด 5 คน ในจำนวนนี้เข้าข่ายเฝ้าระวัง 21 วัน 1 คน โดยผลการคัดกรองผู้เดินทางสะสมตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2557-28 สิงหาคม 2557 รวม 849 คน มีผู้ที่ต้องติดตามอาการ 21 วัน รวม 248 คน ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้เดินทาง ส่วนผลการตรวจทางเรือและบกรวม 58 จุด ไม่พบรายใดมีอาการผิดปกติ
ต่างประเทศ
++++กลุ่มโจรสลัด พร้อมอาวุธครบมือ ได้บุกเข้าปล้นเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งของไทยที่เกาะทิโอมันในทะเลจีนใต้ นอกชายฝั่งทางตะวันออกของมาเลเซีย พร้อมทั้งขนถ่ายน้ำมันจากเรือเมื่อวานนี้ นายโนเอล ชุง หัวหน้าศูนย์รายงานเหตุการณ์ปล้นสดมภ์ของกลุ่มโจรสลัดในสังกัดองค์การเดินเรือระหว่างประเทศ(ไอเอ็มบี) เปิดเผยว่า เรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าวแล่นจากสิงคโปร์มุ่งหน้าไปยังประเทศไทย แต่เกิดเหตุปล้นสดมภ์เรือเสียก่อน ในช่วงเกิดเหตุ ลูกเรือของเรือไทยถูกควบคุมตัวไว้ในห้องเครื่องยนต์ ขณะที่กลุ่มโจรสลัดทำการขนถ่ายน้ำมันลงยังเรือเล็กอีกลำหนึ่ง แต่เรือ พร้อมกับลูกเรือทั้งหมดไม่ได้รับอันตรายและถูกปล่อยตัวในวันนี้ เหตุการณ์ปล้นเรือในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 10 ในแถบทะเลจีนใต้ นับตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขสูงผิดปกติ
+++เครื่องบินรบรุ่น “ซีเอฟ-18” ขึ้นบินประกบเครื่องบินของสายการบินซันวิง แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน 656 หลังมีผู้โดยสารหญิง 2 ราย ก่อเหตุจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ดื่มสุราที่ซื้อมาจากร้านค้าปลอดภาษีของสนามบินจนเมามาย รวมทั้งก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันเองในห้องสุขาของ และพูดจาเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของอากาศยาน กัปตันจึงจำเป็นต้องหันหัวเครื่องบินกลับไปท่าอากาศยานนานาชาติเพียร์สันในเมืองโทรอนโต และนำพวกเธอออกจากเครื่อง พร้อมทั้งแจ้งข้อหาสูบบุหรี่บนเครื่องบิน กระทำการที่เป็นภัยคุกคามต่ออากาศยาน ก่อกวนความปลอดภัยและใช้วาจาที่เป็นภัยคุกคามความปลอดภัย ทั้งนี้ การส่งเครื่องบินรบ “ซีเอฟ-18” ขึ้นบินแต่ละครั้งนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 16,750 ดอลลาร์สหรัฐ (536,000 บาท)
หุ้นไทยและต่างประเทศ
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 2.58จุดที่1,561.63จุดมูลค่าซื้อขาย48,744.18ล้านบาท
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาด ลดลง 35.27 จุด ที่ 15,424.59 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาด เพิ่มขึ้น 1.06 จุด ปิดที่ 24,742.06 จุด