นายกฯ ขอแยกแยะความต่างระหว่างการละเมิดสิทธิมนุษยชน กับการละเมิดกฎหมาย

การกล่าวปาฐกถา "วาระแห่งชาติ: สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน Thailand 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน" เนื่องในวันสิทธิมนุษยชนสากล

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชน โดยได้ประกาศให้หลักสิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ขณะนี้ประเทศกำลังอยู่ในแผนขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชน ฉบับที่ 3 และกำลังจะเริ่มฉบับที่ 4 ที่มีวาระตั้งแต่ปี 2562-2566 โดยที่ผ่านมายืนยันว่ารัฐบาลคุ้มครองทุกคนและพยายามสร้างความเท่าเทียมให้เกิดในสังคม แต่โอกาสของแต่ละคนไม่เท่ากัน คนรวยมีมากกว่าคนจน จึงเป็นคำถามว่าจะทำอย่างไรถึงจะยกระดับโอกาสของแต่ละคนขึ้นมาได้

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า วันนี้ยังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนมาก และการเมืองก็ยังมีปัญหา แต่ขอให้แยกให้ออกว่าสิ่งใดคือการละเมิดสิทธิมนุษยชน สิ่งใดคือการละเมิดกฎหมาย สร้างปัญหาการเมือง ซึ่งทุกวันนี้ยังมีขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ ซึ่งถ้าผิดกฎหมายก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่นำหลักสิทธิมนุษยชนมาอ้างเสมอ รัฐบาลไม่อยากให้มองว่ามีการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความขัดแย้งหรือแบ่งแยกใคร และแม้จะเป็นรัฐบาลพิเศษ แต่ก็ไม่เคยมีความคิดรังแกประชาชนและไม่เคยสั่งให้ไปทรมานผู้ใด ทั้งไม่ได้ขอให้ใครมารัก และไม่รู้ว่าเป็นผู้นำที่ดีหรือไม่ แต่มีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาต่างๆ สิ่งสำคัญในตอนนี้คือต้องสร้างหลักคิด สร้างความรู้ และความรักประเทศให้กับประชาชนให้ได้ เพื่อให้ประเทศมีความสงบและเดินหน้าไปได้ ยืนยันว่ารัฐบาลกำลังมุ่งหน้าประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่ขออย่าไปสนใจเพียงรัฐธรรมนูญอย่างเดียว เพราะยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่ให้ความสำคัญต่อหลักสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาประเทศ พร้อมกันนี้ยังระบุว่าอย่าเอาเสื้อตัวเดียวมาใส่ให้คนทั้งโลก โดยหลักการแก้ปัญหาเดียวกันอาจใช้ได้กับประเทศหนึ่ง แต่ใช้ไม่ได้กับอีกประเทศหนึ่งทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่างานวันสิทธิมนุษยชนสากลในวันนี้ได้รับความสนใจจากนักการฑูตต่างประเทศหลายประเทศ เช่น ศรีลังกา มอลโดวา เข้าร่วมฟังนายกรัฐมนตรีปาฐกถาและก่อนที่จะเริ่มงานในวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการเนื่องในวันสิทธิมนุษยชนที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย

...

ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร