หุ้นสหรัฐฯ ผันผวนหนัก น้ำมันร่วง ทองคำปิดลบ กังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 2.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทผู้ให้บริการทางพลังงาน เผยแพร่รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ มีการเดินเครื่องเพิ่มเติมอีก 26 แท่นเป็น 791 แท่นในสัปดาห์นี้ ถือเป็นการเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน และเป็นสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ปัจจัยนี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับกำลังผลิตที่สูงขึ้นของสหรัฐฯ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในวันศุกร์ ยังผันผวนหนัก ก่อนดีดตัวปิดบวกในช่วงชั่วโมงสุดท้าย ในส่วนของดาวโจนส์ แกว่งตัวขึ้นลงระหว่างการซื้อขายมากกว่า 1,000 จุด ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 330.44 จุด  ปิดที่ 24,190.90 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 38.55 จุด ปิดที่ 2,619.55 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 97.33 จุด  ปิดที่ 6,874.49 จุด นักวิเคราะห์ มองว่า สาเหตุที่หุ้นวอลล์สตรีท เริ่มผันผวนอย่างหนักในสัปดาห์นี้ เนื่องจาก ความกังวลของนักลงทุน เรื่องเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตมากขึ้น อัตราการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อต่างขยับขึ้น รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่บ่งชี้เรื่องอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ทำให้มีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้บ่อยครั้งกว่าที่คาดกันไว้  หุ้นวอลล์สตรีท เปิดตลาดอย่างแข็งแกร่ง แต่จากนั้นก็ดิ่งลงสู่แดนลบในช่วงครึ่งวัน ก่อนฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงท้ายของการซื้อขายและปิดบวกแรง นักลงทุน คาดหวังอย่างมากว่าตลาดจะหลุดพ้นจากวัฏจักรความผันผวน หากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อสัปดาห์หน้าไม่ออกมาน่าตกใจและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯไม่สูงขึ้นจากระดับปัจจุบัน

ส่วนราคาทองคำปิดลบ และทำสถิติเป็นสัปดาห์ที่ขยับลงหนักที่สุดในรอบ 2 เดือน นักลงทุน จับตาสถานการณ์ความผันผวนในตลาดหุ้นโลก โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,315.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แฟ้มภาพ