ผู้ว่าฯจันทบุรี ชี้แจงเหตุผลที่ยื่นหนังสือลาออกในหนังสือ พ่อพระ

หลังจากที่นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอลาออกจากราชการ หลังมีกระแสข่าวว่าเกิดจากสาเหตุที่เกิดความผิดพลาดบางถ้อยคำในเอกสารการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อย่างเป็นทางการ นอกสถานที่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 5-6 ก.พ. ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เป็นลักษณะมีคำสั่งคลาดเคลื่อน

การประชุมมอบนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนวันนี้ ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดได้เดินทางมารับฟังการมอบนโยบาย รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมเปิดเผยเรื่องการลาออกว่า คำชี้แจงที่ดีที่สุดอยู่ในหนังสือชื่อพ่อพระ ที่ได้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพพ่อของตัวเอง คือนายยง ศรีนาม อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทย  ซึ่งตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2560 โดยขอให้ไปอ่านคำชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด จากด้านในหนังสือเล่มนี้

ส่วนกรณีที่นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งยับยั้งหนังสือลาออก นายวิทูรัช กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ยืนยันมีเจตนาทำตามความตั้งใจที่เคยเขียนไว้ในหนังสือ พร้อมกับเน้นย้ำ ว่าต้องการให้ทุกคนได้อ่านทุกหน้า ทุกบรรทัดของหนังสือ เนื่องจากบ้านเมืองทุกวันนี้ไม่สงบสุขจึงอยากให้ทุกคนมีความใจเย็น อย่าด่วนตัดสินใจอะไร เหมือนที่นายกรัฐมนตรีได้บอกว่าต้องการให้ทุกคนสามัคคีกลมเกลียวกัน ซึ่งคำตอบถึงเหตุผลการลาออก ก็อยู่ในหนังสือ จึงอยากให้อ่านทุกวรรคทุกตอน

ทั้งนี้สำหรับหนังสือพ่อพระ เนื้อหาได้เขียนถึงคำสอนของบิดา ในการดำรงสายเลือดเป็นบรรพบุรุษตุลาการ ซึ่งบ้านเมืองจะเดินต่อไปอย่างไร และต้องทำอย่างไรให้มีความสงบสุขสันติ

หลังจากที่นายวิทูรัช ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเสร็จ ได้มีเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปหาปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อเข้าพบพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหลังเข้าพูดคุยกันประมาณ 40 นาที พลเอกอนุพงษ์ กล่าวว่า เรื่องการลาออกเป็นความรับผิดชอบของผู้ว่าราชกาชจังหวัดจันทบุรี ที่คิดว่า มีข้อผิดพลาดเรื่องการทำงาน เรื่องหนังสือ โดยคิดไปเองว่าต้องรับผิดชอบลาออกซึ่งเจ้าตัวได้พิจารณาตัวเองแล้ว แต่ผู้ที่พิจารณาหนังสือลาออกว่าจะให้ออกหรือไม่ เป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมกล่าวว่าส่วนตัวไม่มีความเห็นในเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าว: เกตุกนก ครองคุ้ม