นายกรัฐมนตรี ยืนยันโครงการไทยนิยมยั่งยืน มีเป้าหมายเพื่อการสร้างความเท่าเทียม

การประชุมมอบนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน แก่คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนงานอื่น จำนวน 2,800 คน ของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานมอบนโยบาย โดยในตอนหนึ่งของการมอบนโยบาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน นั้น คือการลงไปในพื้นที่ไปสู่ในระดับปฏิบัติการ มีกลไกลหลายส่วนทำงานประสานกัน โดยเฉพาะในระดับตำบล อำเภอ และหมู่บ้าน ที่นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า ต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยในทุกระดับให้ได้ โดยไม่ตั้งแง่ และจะต้องมุ่งสู่ผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก หากสิ่งใดไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ก็ไม่ต้องนำมาสร้างความขัดแย้ง  นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า สิ่งที่ทำในวันนี้ ก็เพื่อความเท่าเทียมกัน และความเป็นธรรม ที่จะต้องดูแล ผู้มีรายได้น้อย ซึ่งไม่ใช่เพียงเกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกระดับ พร้อมขอว่าอย่าตีความหมายของไทยนิยมเป็นอย่างอื่น และไทยนิยมก็ไม่ใช่กระแสประชานิยม เพราะในวันนี้ยังมีความไม่เท่าเทียม และความไม่ทั่วถึง เช่น ด้านสาธารณูปโภค ที่ต้องทำให้ทุกพื้นที่มีความเท่าเทียม เป็นหลักกระบวนการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆนั้น จะต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และรัฐบาลเป็นของประชาชนทั้งประเทศ  ไม่ใช่พรรคใด พรรคหนึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะเป็นพ่อเมือง จะต้องดูแลแก้ไขปัญหา เช่น ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า ปัญหาแพส่งเสียงดังปล่อยน้ำเสีย หรือปัญหาเรื่องเหมืองแร่ ส่วนในราชการท้องถิ่นจะต้องไม่ต่างคนต่างทำงาน ในวันนี้ต้องมุ่งทำความดี แก้ปัญหาประเทศชาติ ไม่นำกติกาของคนอื่นมาสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น อยากให้ทุกคนทำงานอย่างบูรณาการ วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ และอยากให้ ปลัดกระทรวง อธิบดีลงไปอยู่กับประชาชน ไม่ต้องติดตามตัวเองในเวลาไปลงพื้นที่ด้วย

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังให้แนวทางการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศตามวาระ 10 เรื่อง ประกอบด้วย สัญญาประชาคมถูกใจไทยเป็นหนึ่ง คนไทยไม่ทิ้งกัน ชุมชนอยู่ดีมีสุข วิถีไทยพอเพียง รู้สิทธิ รู้หน้าที่ รู้กฎหมาย รู้กลไกบริหารราชการ รู้รักประชาธิปไตยไทยนิยม รู้เท่าทันเทคโนโลยี ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด และงานติดตามภารกิจของส่วนราชการหรือหน่วยงาน

ทั้งนี้ ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรียังได้ กล่าวตำหนิสื่อมวลชน ที่ชอบนำเรื่องเล็กน้อยเป็นประเด็น เช่น เรื่องที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้เรื่องแต่งชุดไทย และยังชอบถ่ายภาพตนเองตอนชี้มือ โดยขอให้ใช้สมองที่มีทั้งหมด ไม่ใช่ใช้เพียงข้างเดียว เพราะจะทำให้เกิดการปั่นป่วน อีกทั้งยังบอกว่า ในวันนี้จะพาดหัวข่าวให้ว่า นายกฯ ปรี๊ดแตก ก่อนที่จะขอปรับอารมณ์ และมอบนโยบายให้กับคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดต่อ

...

ผสข.เกตุกนก ครองคุ้ม