+++การสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก เข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ช่วงบ่ายวันนี้พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลงานฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ เดินทางมาเป็นประธานการสอบสวน ที่กองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม (บก.ปทส.)
+++พลตำรวจตรีชยพล ฉัตรชัยเดช รองผู้บัญชาการสันติบาล เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่เข้าเวรในวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ รวมทั้งชุดจับกุม เพื่อไล่ลำดับเวลาก่อนจับกุม ขณะจับกุม และหลังจับกุม อย่างละเอียด และสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เป็นเจ้าของคลิปเสียงเจรจาต่อรองดังกล่าวว่าบุคคลที่ต่อรองคือใคร หากพบว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดติดสินบนเจ้าพนักงานก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง
+++นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า วันนี้จะให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน โดยเฉพาะคลิปเสียงการเจรจาระหว่างผู้ต้องหากับเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่าคลิปเสียงนั้นเป็นเสียงจริงที่เกิดขึ้นหลังการจับกุม แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นเสียงของนายเปรมชัยหรือไม่ โดยมีเสียงเจรจาประมาณ 2-3 เสียง ส่วนการขออนุญาตเข้าพื้นที่ของนายเปรมชัยและพวก พบว่า มีการทำหนังสือขออนุญาตมายังกรมอุทยานฯ แล้ว แต่ยังไม่มีการเซ็นอนุญาต ซึ่งในทางปฏิบัติไม่ถือว่าเป็นความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ เพราะโดยปกติหากมีกลุ่มบุคคลขอเข้าพื้นที่ เจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกให้อยู่แล้ว ประกอบกับคิดว่านายเปรมชัยเป็นนักธุรกิจ มาท่องเที่ยวตามปกติ ไม่ได้คิดว่ามาล่าสัตว์ และจุดที่นายเปรมชัยตั้งเต็นท์ก็เป็นจุดอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปได้
+++สำหรับเสือดำตัวดังกล่าว มักจะออกมาให้นักท่องเที่ยวเห็นอยู่เป็นประจำ และไม่ขอยืนยันแน่ชัดว่าขณะนี้ทุ่งใหญ่นเรศวรหลงเหลือเสือดำอีกหรือไม่ แต่ที่บริเวณดังกล่าวมีเพียงเสือดำตัวนี้ออกมาให้นักท่องเที่ยวเห็นเพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่หากทนายความจะใช่ข้อกฎหมายอ้างว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวเอง เนื่องจากเกรงกลัวว่าเสือจะมาทำร้าย ตามปกติแล้วสัตว์ป่าจะเกรงกลัวมนุษย์ หากไม่ทำร้ายมันก่อน และพฤติกรรมของนายเปรมชัยที่มีการพกปืนยาว และเกลือจำนวนมาก แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการเตรียมการไปล่าสัตว์ ซึ่งเกลือจำนวนที่พบสามารถดำรงชีวิตในป่าได้ถึง 2 เดือน ส่วนกรณีที่นายเปรมชัยอ้างว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนถือปืนและลงมือล่าสัตว์ แต่เป็นลูกน้องที่เป็นผู้ลงมือ กรณีดังกล่าวถือว่านายเปรมชัยเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และสนับสนุนให้กระทำความผิดซึ่งมีโทษตามกฏหมายเช่นเดียวกัน อีกทั้งอาวุธปืนดังกล่าวทะเบียนเป็นชื่อของนายเปรมชัยด้วย
+++กรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนายเปรมชัยเข้าไปล่าสัตว์ โดยมีอดีตข้าราชการระดับสูงอยู่เบื้องหลังนั้น นายชัยวัฒน์ ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะขั้นตอนการขอเข้าไปภายในอุทยานฯ จะมีการทำหนังสือมายังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร แต่เป็นที่น่าสังเกตว่านายเปรมชัยเลือกจะใช้วิธีการขออนุญาตแทนการจ่ายเงินเพียงคนละ 20 บาท เพื่อเข้าพื้นที่ทั้งที่ตัวเองเป็นมหาเศรษฐีระดับประเทศ
+++ด้านนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก กล่าวถึงคลิปเสียงที่เป็นการต่อรองการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ว่า ตัวเองยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเสียงที่ปรากฏเป็นของทีมงานนายเปรมชัย หรือตัวนายเปรมชัยเอง เนื่องจากขณะนั้นตัวเองอยู่ระหว่างทำบันทึกจับกุม แต่ยอมรับว่ามีการมาพูดกับตนส่วนตัวในลักษณะคล้ายหยั่งเชิง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นการต่อรองหรือไม่ โดยรายละเอียดคำพูดขอไม่เปิดเผย มองว่าคลิปดังกล่าวถูกปล่อยออกมาเพื่อเป็นการดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ แต่ยืนยันไม่ย่อท้อ และจะยังตั้งใจทำงาน พร้อมให้กำลังใจลูกน้องให้เข้มแข็ง
+++นายนพดล หลาวทอง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้เดินทางมายื่นคำร้องทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 4 คน ที่สั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท จากกรณีที่ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และทำให้ทางราชการเสียหาย โดยขอให้ศาลปกครอง มีคำสั่งให้กรมบังคับคดี งดหรือชะลอการขายทอดตลาดทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไว้ก่อนชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
+++นายนพดล กล่าวว่า ที่มายื่นคำร้องใหม่ครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่า การยึดทรัพย์บังคับคดีจะต้องเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่เกิดขึ้นหลังจากศาลมีคำพิพากษา แต่กรณีนี้ยังไม่มีคำพิพากษาของศาลใดให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชดใช้ คำสั่งที่ให้ชดใช้เป็นเพียงคำสั่งทางปกครองที่เกิดขึ้นในสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ และมีความไม่ชอบทุกขั้นตอน
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งระหว่างการเป็นประธานพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 4 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ให้แก่ 22 หน่วยงาน จำนวน 24 รางวัลว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงของการปฏิรูป การใช้จ่ายงบประมาณต่าง ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร แต่ยังคงอยู่บนพื้นฐานความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ การจัดซื้อจัดจ้างต้องรัดกุม และเป็นไปตามกฎระเบียบ ซึ่งในการลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จังหวัดจันทบุรี มีโอกาสพบกับผู้นำท้องถิ่นที่แสดงความเป็นห่วงเรื่องการใช้งบประมาณของรัฐ ที่จัดสรรไม่ทั่วถึงในทุกพื้นที่ ขอยืนยันว่า รัฐจัดสรรงบประมาณลงสู่ทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง ไม่เลือกปฏิบัติพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง
+++นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการเลือกตั้งนั้น ไม่ต้องการให้เกิดความยืดเยื้อยาวนาน ต้องการให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ เป็นที่ยอมรับระดับสากล ซึ่งเมื่อวานนี้ มีโอกาสพบกับผู้แทนจากสหรัฐฯ ได้ชี้แจงประเด็นนี้ว่าขอเวลาให้ประเทศไทย พิจารณาเรื่องกฎหมายก่อน เมื่ออเมริกามีคำว่า America First ประเทศไทยก็มี Thailand First ที่ต้องดูแลผลประโยชน์ของคนในประเทศก่อน
+++นายกฯ ชี้แจงเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการไทยนิยมยั่งยืน ว่าที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ และบางส่วนนำไปบิดเบือน ขอย้ำว่างบประมาณที่นำไปจัดเลี้ยงอาหารกลางวันประชาชน เป็นเพียงการจัดเลี้ยงผู้ที่เข้ามาร่วมโครงการพัฒนาฝึกอาชีพ เพื่อพัฒนาศักยภาพของ ผู้มีรายได้น้อย และ เพิ่มขีดความสามารถ ไม่ใช่นำเงินไปหว่านแบบไม่เกิดประโยชน์ ทุกขั้นตอนทุกกระบวนการ มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ และจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดที่ 1,786.66 จุด เพิ่มขึ้น 1.22 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,935.52 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ เนื่องจากมองว่าตลาดยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ตลาดหุ้นโลก รอติดตามตลาดหุ้นสหรัฐฯคืนนี้ว่าน่าจะพลิกฟื้นได้ เนื่องจากร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสหรัฐฯน่าจะตกลงร่วมกันได้ โดยจะยืดระยะเวลาออกไปกลางเดือนหน้า ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อตลาด
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 128.07 จุด ปิดที่ 30,451.27 จุด นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค.
+++ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 245.49 จุด ปิดที่ระดับ 21,890.86 จุด
+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่าประธานาธิบดีมุน แจอิน จะทานอาหารเที่ยงร่วมกับน.ส.คิม โยจอง น้องสาวของนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือในวันเสาร์นี้ โดยผู้นำเกาหลีใต้ จะพบกับคณะเจ้าหน้าที่และนักกีฬาชาวเกาหลีเหนือ สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในเมืองพย็องชังของเกาหลีใต้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9-25 ก.พ.นี้ แต่เกาหลีเหนือเมินเฉยต่อข้อเสนอแนะจากเกาหลีใต้ที่ว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีเหนือ ควรจะพบกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯนอกรอบการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ด้วย โดยนางโจ ยองซัม เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ เปิดเผยกับสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือไม่เคยร้องขอให้มีการนัดหมายเจรจากับสหรัฐฯ และคงจะไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเจรจากับสหรัฐฯในช่วงนี้
+++ด้านรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ของสหรัฐฯ ซึ่งแวะเยือนญี่ปุ่นเมื่อวาน เพื่อหารือเรื่องสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น ก่อนจะเดินทางไปยังเกาหลีใต้ในวันนี้ เพื่อร่วมชมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในวันพรุ่งนี้ ระบุเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่ายินดีจะพบกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีเหนือ แต่ระบุว่าฝ่ายรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ไม่ได้นัดหมายเพื่อพบเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเช่นกัน ขอให้ทุกฝ่ายรอดูไปก่อนว่าการเจรจากับเกาหลีเหนือจะมีขึ้นหรือไม่
CR:รัฐบาลไทย